
จากกรณีที่หนุ่มสวมหมวกกันน็อกบุกเดี่ยวใช้อาวุธมีดจี้ชิงสร้อยทอง น.ส. สำรอง สินดี อายุ 54 ปี ขณะอยู่ภาย ในร้านotteri was&dry เลขที่12/47 ม.2 ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุ โดยคนร้ายเป็นผู้ชายสวมหมวกกันน็อก เสื้อคลุมสีดำกางเกงยีนส์ ถือมีดยาวประมาณ 5 นิ้ว เดินปรี่เข้าไปจี้ พร้อมข่มขู่ให้ นางสำรอง ถอดสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท แล้ว รีบวิ่งขึ้นรถจยย.ฮอนด้า สีแดง หลบหนีไป ตร.ระดมกำลังไล่ล่า ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 6 พ.ค.65 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ. จว.ระยอง ได้แถลงข่าว ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง พร้อม พ.ต.อ. อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก.สภ.เมืองระยอง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองระยองได้ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.ระยอง ได้ร่วมกันจับกุม นายกันตภณ ยังยืนนาน อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 9/141 ม.2 ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยองผู้ต้องหา จี้ชิงสร้อยคอทองคำ ผู้ดูแลร้านซักผ้าหยอดเหรียญ otteri was&dry พร้อมของกลางทองคำ น้ำหนัก 1 บาท

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค.65 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้ ตามเส้นทางคนร้ายขี่หลบหนีจากกล้องวงจรปิดในทุกเส้นทางจนกระทั่งสืบทราบจากหมายเลขทะเบียนรถจยย.และที่อยู่อาศัยของคนร้าย ซึ่งมีบ้านพักอยู่ภายในซอย หลังธนาคารกรุงเทพ สาขาระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงนำกำลังเข้าจับกุม โดยนายกัณตภณ ยอมจำนนแต่โดยดี จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน
โดยนายกันตภณ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำจริง ลงมือทำลำพังเพียงคนเดียว เพราะต้องการหาเงินไปไถ่โทรศัพท์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำนำไว้ หลังก่อเหตุได้นำสร้อยคอทองคำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง หลังได้เงินก็นำไปไถ่โทรศัพท์ ก่อนจะกลับมาทำตัวเหมือนปกติ จนกระทั่งมาถูกจับ และยังยอมรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุชิงทรัพย์พนง.สาวร้านขายยาแห่งหนึ่งในตัวเมือง ระยอง เมื่อวันที่ 2 พ.ย.62 และ ถูกจับกุมจนเพิ่งพ้นโทษออกมา เมื่อเดือนพ.ย. 64
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดของกลางข้างต้นจากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยองเพื่อดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์.
Discussion about this post