ชาวบ้าน อ.เทิง ยืนยันต้านโรงไฟฟ้าขยะ เดินหน้าฟ้องศาลปกครอง 

ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย

วันที่ 11 พ.ค.65 ที่วัดซาววา ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย กลุ่มชาวบ้านผู้คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะนำโดย นายพันธวัช ภูผาพันธกานต์ นายอรุณ จินณรักษ์ นายวรศิลป์ ขันต๊ะวี ได้ไปรวมตัวกันอ่านแถลงการณจุดยืนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ห่วงว่าจะกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยได้ร่วมกันลงรายชื่อกว่า 2,000 คนในการคัดค้าน และได้ยื่นหนังสือต่อนายประสิทธิ์ พิลาวุฒิ นายกเทศมนตรี ต.สันทราย และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปแล้ว ที่ผ่านมายังมีการประชุมเพื่อหาทางออกระหว่างนายอกเภอเทิง กำนัน ต.สันทรายงาม ตัวแทนชาวบ้านและนายสังสรรค์ วันไชยธนะวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 5 พรรคเพื่อไทย ซึ่งที่ประชุมต่างมีความเห็นให้ยุติโครงการ โดยกลุ่มผู้คัดค้านและประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ได้ร่วมกันลงรายชื่อเอาไว้แล้วจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อศาลปกครองเชียงใหม่ที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อขอความกรุณาให้คำวินิจฉัยยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้า

ด้าน นายพันธวัช ภูผาพันธกานต์ นักวิชาการอิสระรัฐศาสตร์ศึกษาเพื่อการพัฒนา กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลสันทรายงาม พยายามจะนำเอาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเข้าในพื้นที่ ทำให้พี่น้องในพื้นที่ ต.สันทรายงาม เกิดความไม่เกิดความไม่สบายใจ เพราะจะก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะจุดก่อสร้างอยู่ใกล้ชุมชนและติดกับแหล่งน้ำสาขาของแม่น้ำอิง ปัญหามลพิษจากการเผาขยะ และการจัดการขยะ ซึ่งต้องใช้ขยะในปริมาณ 500-700 ตันต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกิน แต่สันทรายงามเป็นตำบลเล็กๆ มีพื้นที่น้อย จึงไม่มีความจำเป็นในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เราพยายามใช้หลักนิติศาสตร์ในการพูดคุยกับฝ่ายสนับสนุน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควรเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันนี้เราจึงมารวมตัวกันแถลงจุดยืนว่าเราจะเดินหน้าคัดค้านอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะใช้เวลานานขนาดไหนหรือยุ่งยากแค่ไหน และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อศาลปกครอง เพื่อขออำนาจศาลในการระงับโครงการ หรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างไดให้โครงการดังกล่าวยุติลง

ด้านนายวรศิลป์ ขันต๊ะวี ชาวบ้าน ต.สันทรายงามกล่าวว่า ต.สันทรายงามมีพื้นที่กาคเกษตรแค่ 8,000 ไร่ ชาวบ้านกว่า 95 เปอร์เซนต์ เป็นเกษตรกร ทำไร่ทำนาต้องพึ่งพาอาศัยน้ำ หากโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเข้ามาในพื้นที่และสร้างอยู่บริเวณต้นน้ำ ห่างจากร่องคั๊วะ ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำอิงแค่ 500 ม. และห่างจากชุมชนบ้านใหม่สันทรายแค่เพียง 500 ม. เป็นไปไม่ได้ที่ชาวบ้านและเกษตรกรจะไม่มีผลกระทบ