วันที่ 6 มิถุนายน 2565 ที่โรงเรียนสารภีพิทยาคม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นายชาตรี ม่วงสว่าง ศึกษาธิการภาค 15 เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียนโรงเรียนสารภีพิทยาคม ประจำปีการศึกษา 2565 โดยมี นายวุฒิไกร วรรณการ ผู้อำนวยการโรงเรียนสารภีพิทยาคม รายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว
ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน อาทิ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลยางเนิ้ง สโมสรไลออนจังหวัดเชียงใหม่ โรงพยาบาลสารภี สถานีตำรวจภูธรสารภี คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนสารภีพิทยาคม ชมรมครูเก่าเพชรสารภี ชมรมศิษย์เก่าโรงเรียนสารภีพิทยาคม เครือข่ายผู้ปกครองนักเรียนและครูโรงเรียนสารภีพิทยาคม โดยให้ครูที่ปรึกษาต้องไปเยี่ยมบ้านนักเรียนในที่ปรึกษา 100 % ภายในมิถุนายนนี้ ซึ่งโรงเรียนดังกล่าว มีนักเรียน จำนวน 1,023 คน
นายวุฒิไกร กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลช่วยเหลือนักเรียน เนื่องจากตลอด 2 ปีกว่าที่ผ่านมา มีสถานการณ์โควิด-19 นักเรียน คณะครู มีการจัดการเรียนการสอบแบบ On Line จึงไม่มีโอกาสที่จะไปดูแลนักเรียน ไปดูว่าลูกของเรา มีปัญหาอะไรบ้าง จึงมีนโยบายให้ครูประจำชั้น ลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านนักเรียนแบบปูพรหม เพื่อต้องการรับทราบปัญหา
ดังกล่าว
“ครูทุกคนต้องออกไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ต้องให้ได้ 25% ของจำนวนนักเรียนในห้องเรียนที่รับผิดชอบดูแล และโครงการนี้มีระยะเวลาให้ครูออกเยี่ยมบ้านนักเรียนตลอดทั้งเดือนมิถุนายน ซึ่งได้จัดการเรียนการสอบแบบ On Site ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซุ่งมาเรียนครบ 100% แต่มีปัญหาสำหรับนักเรียนบางคนที่ชุดนักเรียน แบะรองเท้าไม่มีบ้าง
ซึ่งเป็นโจทย์ที่ได้เห็นตั้งแต่วันเปิดภาคเรียน ทำให้
มีแนวคิดว่า ครูต้องไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ดูว่าที่บ้านนักเรียนมีปัญหาอะไรบ้าง จะได้วางแผนช่วยเหลือนักเรียนที่ยากจนและขาดแคลนต่อไป” นายวุฒิไกร กล่าว
ปกติการเยี่ยมบ้านนักเรียน ครูจะไปในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือไปในช่วงเย็นของวันที่มีการเรียนการสอน แต่วันนี้งดการเรียนการสอน นักเรียนหยุดอยู่บ้าน ซึ่งผู้บริหารโรงเรียนได้ออกไปเยี่ยมนักเรียน 3 ครัวเรือน ที่ไปเยี่ยมหลังแรก พบว่าในบ้านอาศัยพ่อ-แม่-ลูก ซึ่งเป็นชาวต่างด้าว และนักเรียนไม่มีบัตรประจำตัว ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สโมสรไลออนฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะร่วมกันหาทาง และดำเนินการให้นักเรียนมีบัตรประจำตัว ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเป็นบัตรแบบไหนนั้นต้องเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย
นายวุฒิไกร กล่าวอีกว่า นักเรียนรายดังกล่าว ได้พักอาศัยอยู่ด้วยกับครอบครัว ซึ่งเป็นพ่อแม่ลูก โดยเจ้าของที่ดิน ได้อนุญาตให้อาศัยอยู่ได้ โดยไม่เสีย
ค่าเช่า ซึ่งสภาพบ้านได้ใช้สังกะสีที่ล้อมที่ดิน มาดัดแปลงเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว ไม่ได้สร้างถาวร จากการพูดคุย ได้รับรู้ถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นได้มอบสิ่งของจำเป็นแก่นักเรียนและครอบครัวด้วย
/////////
Discussion about this post