ตำรวจยึดอาวุธปืนสงคราม 2 กระบอก คาดเป็นของขบวนการค้าอาวุธในพื้นที่ไว้ใช้ก่อเหตุ !!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.45 น.วันที่ 10 มิถุนายน 2565 นี้เจ้าหน้า ที่ ชุดปราบปรามอิทธิพล มือปืนรับ จ้างและผู้ร้ายสำคัญ สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ นำโดย พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.ต.จำเริญ อินทร์เเก้ว สว.กก. ตชด11/ศปอร.ตร.ชุด1 ส่วนกลาง พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง รองผกก.นาขยาด หน.ปชส.ภ.จว.พัทลุง พร้อมพวก ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศป.อร. ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาลผช.ผบ.ตร./รอง ผอ. โดยสั่งการให้ทำการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง ผู้ร้ายสำคัญเเละกวาด ล้างอาวุธปืนสงคราม ในพื้นที่ จังหวัดพัทลุง เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมามีการนำอาวุธสงครามออกมาใช้ก่อเหตุกันหลายคดีในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง

ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานข้อมูลเเละสนธิกำลังกับหน่วยงานในพื้นที่ออกทำการสืบสวนจับกุม จนทราบว่าจะมีการนัดหมายซื้อขายอาวุธสงครามกันในพื้นที่อำเภอป่าพะยอม จึงได้ลงพื้นที่ร่วมกับชุดปราบปรามยาเสพติตพัทลุง ออกทำการตรวจค้นในพื้นที่ตามที่ได้รับรายงานจากเเหล่งข่าวว่าจะมีการส่งมอบอาวุธกันในพื้นที่บ้านควนเเบก หมู่ที่13 ตำบลเกาะเต่า อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง ผลการตรวจค้นตามที่เเหล่งข่าวเเจ้งเบาะเเสพบกระสอบปุ๋ยวางไว้บริเวณพงหญ้าริมคลองจากการตรวจค้นภายในกระ สอบพบอาวุธปืนยาวคาร์บิน จำนวน 2 กระบอก แมกซีน 2 อัน กระสุนขนาด.30 จำนวน4นัด พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพัทลุงเข้าจัดเก็บDNA เเละตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะนำปืนมาซุกซ่อน พร้อมนำอาวุธปืนที่ตรวจยึดส่ง ร้อยเวร .สภ.ป่าพะยอม เพื่อดำเนินคดีต่อไป

สำหรับอาวุธปืนคาร์บิน ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ปืนไรเฟิลสั้นสหรัฐ คาลิเบอร์.30, เอ็ม 1 เป็นปืนไรเฟิลแบบสั้นกึ่งอัตโนมัติด้วยกระสุนขนาด .30 คาร์บิน 7.62×33 mm ซึ่งน้ำหนักเบาและใช้งานง่าย มันเป็นอาวุธปืนแบบมาตรฐานสำหรับกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม เอ็ม1 คาร์บิน ผลิตขึ้นในหลายรูปแบบและใช้งานกันอย่างแพร่หลายโดยไม่เพียงแค่กองทัพสหรัฐเท่านั้น แต่เป็นกองกำลังกึ่งทหารและกองกำลังตำรวจทั่วโลก มันยังเป็นอาวุธปืนสำหรับพลเรือนที่ได้รับความนิยม
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ คาดว่าน่าจะมีการสั่งซื้อจากขบวนการค้าอาวุธของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ หรือไม่ก็เพื่อนำมาขายให้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ โดยมีการนัดหมายส่งมอบกันในพื้นที่ดังกล่าว แต่ชาวบ้านในพื้นที่มาพบก่อนจึงได้เเจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบและตรวจยึด ก่อนทำการสืบสวนเพื่อขยายผลถึงกลุ่มที่นำอาวุธปืนดังกล่าวมาซุกซ่อนไว้ต่อไป.