ในหลวง ร.10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ องคมนตรี ปฏิบัติภารกิจเยี่ยมให้กำลังใจ จนท. – ปชช.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้ 15 มิถุนายน 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเชิญสิ่งของพระราชทาน และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา โดยมี พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ คณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล, พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ร่วมคณะติดตามลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจ ซึ่งมีคณะผู้บังคับบัญชา, หัวหน้าส่วนราชการ, ข้าราชการส่วนท้องที่ให้การต้อนรับ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเคร่งครัด

โดยเมื่อเวลา 07.00 น. ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้อัญเชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และพลเรือน ตลอดจนประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ ณ สถานีตำรวจน้ำตาบา ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จำนวน 150 ชุด ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4514 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ตำบลบาโงสะโต  อำเภอระแงะ จำนวน 150 ชุด และฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4611 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จำนวน 250 ชุด

ต่อมา องคมนตรีและคณะได้เดินทางยังโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เชิญสิ่งของพระราชทานพร้อมเยี่ยมให้กำลังใจ พลทหาร สุไลมาน ยูโซะ ที่ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่หน้าป้อมจุดตรวจ สถานีตำรวจน้ำตากใบ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนเดินทางมายัง กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจยะลา 912 (วัดหลักห้า) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา อัญเชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 250 ชุด ทั้งนี้ได้ร่วมประชุมรับฟังสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ หารือแนวทางการขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุข เพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกมิติ ร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงานความมั่นคง ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
จากนั้นเวลา 14.00 น. พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ในฐานะ กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิพระดาบส/ ประธานคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะเดินทางยังโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ สังกัดมูลนิธิพระดาบส อำเภอเมือง จังหวัดยะลา  เพื่ออัญเชิญอุปกรณ์การเรียนพระราชทานมอบให้กับศิษย์พระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ รุ่นที่ 12 ประจำปีการศึกษา 2565  พร้อมประชุม ติดตามผลการดำเนินการ และปฏิบัติงานของโรงเรียนให้สำเร็จเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ โดยมี พลเอก สมพล ปานกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะกรรมการสถานศึกษา บุคลากร และศิษย์โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมพิธี และร่วมประชุมตามลำดับ
ในโอกาสนี้ องคมนตรีได้นำพระราชกระแสความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี กล่าวกับกำลังพลที่ปฏิบัติงาน  เพื่อเป็นขวัญกำลังใจว่า ” พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใย และให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งสองพระองค์ทรงติดตามสถานการณ์โดยตลอด ทรงห่วงใยเจ้าหน้าที่ ตลอดจนครอบครัว และพี่น้องประชาชน โดยทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ กำลังพลทุกหน่วยงานได้ประสานการทำงานซึ่งกันและกันในทุกๆภารกิจ ทั้งงานด้านความมั่นคง งานด้านการพัฒนา หรือแม้กระทั้งการเตรียมการรับแผนเผชิญเหตุต่างๆ ซึ่งการปฏิบัตินั้นเจ้าหน้าที่ต้องมีความรอบคอบ มีสติ มีเหตุและผล ไม่ประมาท ปฏิบัติภารกิจด้วยความเข้มแข็ง เพื่อลดการสูญเสีย และให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด”

ทั้งนี้องคมนตรีได้กล่าวพบปะ ให้โอวาทกับ ศิษย์พระดาบส หลังพิธีมอบอุปกรณ์การเรียนพระราชทานว่า ” นับเป็นโอกาสสำคัญในชีวิตที่จะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี มีอาชีพ ตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 9 ที่ได้พระราชทานโครงการพระดาบสให้แก่พสกนิกร โดยมีพระราชประสงค์จะช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ที่ตั้งใจขวนขวายหาความรู้ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือพื้นฐานความรู้ไม่พอเพียงที่จะเข้าเรียนวิชาชีพได้ นอกจากความรู้ในวิชาชีพซึ่งมุ่งเน้นการปฏิบัติมากกว่าทฤษฎีแล้ว โรงเรียนพระดาบสยังเอาใจใส่อย่างจริงจังในการฝึกวินัย คุณธรรม จริยธรรม จิตอาสา และการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยู่ด้วยความพอเพียง จึงขอให้อดทน มุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนจนสำเร็จเป็นความภาภูมิใจของตนเอง และครอบครัวต่อไป” ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ของเหล่าข้าราช การ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และประชาชนในพื้นที่.