ราชบุรี – ชาวบ้านโร่ยื่นหนังสือ หลังรับผลกระทบจากเพลิงไหม้รง.กากอุตสาหกรรม 

วันนี้(17 มิ.ย.) เวลา13.20 น. บริเวณหน้าศาลากลางจ.ราชบุรี ชาวบ้านจาก ต.น้ำพุ และพื้นที่ใกล้เคียงโรงงานกัดจัดกากขยะอุตสาหกรรม จ.ราชบุรี จำนวนเกือบ 100 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสาเหตุไฟไหม้ และเร่งรัดดำเนินการกำจัดถังบรรจุกากอุตสาหกรรมและสารเคมี ที่เป็นเชื้อเพลิงจากการเกิดเหตุไฟไหม้ ภายในโกดัง บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิลเซ็นเตอร์ จำกัด ในพื้นที่ต.รางบัว อ.จอมบึง ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จ.ราชบุรี โดยมี นายอุดม เพชรคุต รองผวจ.ราชบุรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ พร้อมนาย อานันท์ ฟักสังข์ อุตสาหกรรมจังหวัด และ พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี รักษาราชการ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี นำกำลังจนท.ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ให้อำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านที่เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ผวจ.ราชบุรี

ซึ่งหลังเกิดเหตุการเพลิงไหม้โกดังภายในโรงงานกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมนานกว่า 20 ชม. ได้ส่งผลกระทบเรื่องของกลิ่นและมลภาวะทางอากาศเป็นวงกว้าง เนื่องจากยังคงมีถังบรรจุกากอุตสาหกรรมอีก 34,625 ถัง ที่ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี ที่นำมาสู่ความรุนแรงของเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ ทั้งที่มีการพูดคุยหารือและวางแผนการดำเนินงานมาตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ

ด้านนายธนู งามยิ่งยวด ประธานกลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำจังหวัดราชบุรี ขอให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสาเหตุไฟไหม้ และเร่งรัดดำเนินการกำจัดถังบรรจุกากอุตสาหกรรมของบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิลเซ็นเตอร์ จำกัด จำนวน 34,625 ถัง โดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซ้อน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุไฟไหม้ รวมถึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาตรวจสอบความเสียหาย และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพของประชาชนอย่างเร่งด่วน

ขณะที่ นายอุดม เพชรคุต รองผวจ.ราชบุรี กล่าวว่า ทางผวจ.ราชบุรี ได้สั่งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุและช่วยเหลือชาวบ้านใกล้เคียงโรงงานให้เร็วที่สุด ซึ่งทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ เข้าใจและเห็นใจที่ชาวบ้านต้องได้รับผลกระทบมานานหลายปี จึงจะรีบช่วยกันดำเนินการให้เร็วที่สุด และหลังจากที่รับหนังสือไปก็จะรีบประชุมหาแนวทางช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป

ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ทางผวจ.ราชบุรี ได้ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ร่วมกับทางจนท.ตำรวจ เพื่อตรวจสอบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง ในส่วนที่ชาวบ้านยังข้องใจและสงสัยเรื่องความล่าช้าในการขนย้ายกากอุตสาหกรรมนั้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนมีกฏระเบียบ ทางส่วนราชการทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อประชาชนอยู่แล้ว

ทางด้าน นายอานันท์ ฟักสังข์ อุตสาหกรรมจังหวัด กล่าวว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้เข้าร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นจะมีแนวทางดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ ให้ทางสถานประกอบการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก อาจจะเป็นการจัดเวรยามเฝ้ารอบโรงงาน และจะเร่งรัดให้ทางสถานประกอบการดำเนินการขนย้าย และกำจัดเศษกากอุตสาหกรรมที่ยังไม่ได้ขนย้ายให้เสร็จภายในเดือนก.ค.นี้ 

สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี