กลุ่มสายบุญร่วมกันสมทบทุนสร้างบ้านให้ ด.ญ.12 ปี อาศัยอยู่กับครอบครัวในบ้านที่ทรุดโทรมใกล้พัง ฝนตกหลังคารั่ว

วันที่ 21 มิ.ย. 65 ที่บ้านเด็กหญิง 12 ปี ที่บ้านตาอ็องหมู่ 1 ตำบลตาอ็อง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ กลุ่มคนสะพานบุญสายสุรินทร์ มีพันตำรวจโทถนัด ตินานพ สารวัตรสอบสวน สภ.เทนมีย์ เมืองสุรินทร์(ผู้ริเริ่มโครงการ) พร้อมด้วยตัวแทนจากนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์พรรคภูมิใจไทย ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร นายเรืองวิทย์ คุณวัฒนาพงษ์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.สุรินทร์พรรคภูมิใจไทย นายสหัส ยิ่งยงยุทธ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาอ็อง นายคำสิงห์ ชอบมี นายก อบต. ราม และกลุ่มสะพานบุญสายสุรินทร์ ร่วมกันประกอบพิธียกเสาเอกบ้านของเด็กหญิงพนิดา รวดเร็ว อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา ตำบลเทนมีย์ โดยมีพระเดชพระคุณพระครูปริยัติกิจธำรง (หลวงพ่อสมหวัง) รองเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เจ้าอาวาสวัดกลางสุรินทร์เป็นประธานในพิธียกสาเอกบ้านในครั้งนี้

สืบเนื่องจากเพจ facebook ของครูโรงเรียนเทนมีย์มิตรประชา โดยคุณครูกนกวรรณ โพธิ์สีจันทร์ ครูผู้ดูแลระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของโรงเรียนได้เดินทางมาเยี่ยมบ้านของนักเรียนที่อยู่ในความดูแลและได้มาเห็นสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวเด็กหญิงพนิดา หรือน้องปลา ที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม เสาบ้านเอียงไม่รู้จะล้มพังวันไหน เวลาฝนตกหลังคาก็รั่วแทบอาศัยอยู่ภายในบ้านไม่ได้เลย ขณะที่ห้องน้ำที่อยู่ข้างบ้านก็ไม่มีประตูปิด จึงได้ลงภาพบ้านพักอาศัยประกอบในเพจ facebook ทำให้คนทั่วไปที่ได้เห็นได้อ่านเจอในเพจดังกล่าว รวมทั้งกลุ่มสะพานบุญสายสุรินทร์และส.ส.ปกรณ์ มุ่งเจริญพร จึงได้ร่วมกันบริจาคเงินและวัสดุก่อสร้างจากหลายภาคส่วนเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้เด็กหญิงพนิดาและครอบครัวได้อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย มั่นคง เหมือนคนอื่นเขา

โดยบ้านที่สร้างเป็นบ้านชั้นเดียวเสา16 ต้น ก่อด้วยอิฐบล็อกฉาบปูนภายในบ้านเป็นห้องโล่ง มี 1 ห้องนอนสำหรับ ด.ญ.พนิดา มีห้องน้ำและห้องครัวอยู่ด้านหลังบ้าน ค่าก่อสร้างประมาณ 120,000 บาท จะสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินผ่านกลุ่มสะพานบุญสายสุรินทร์มาแล้วแสนกว่าบาท หากมีเงิน เหลือจะเอาฝากธนาคารในชื่อของเด็กหญิงพนิดา รวดเร็ว เพื่อเป็นทุนการศึกษาต่อไป โดยมีผู้ดูแลบัญชีในการเบิกจ่ายทุกครั้งจะมี พ.ต.ท.ถนัด ตินานพ และครูโรงเรียนเทนมีย์มิตรประชาและเด็กหญิงพนิดา รวดเร็ว เท่านั้นจึงจะเบิกออกมาใช้จ่ายได้ โดยครอบครัวของเด็กหญิงพนิดา รวดเร็ว อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีมารดาคือนางสาวอรทัย สารฤทธิ์ อายุ 34 ปี บิดาที่เป็นพ่อเลี้ยงคือนายภิทัศน์ ทุนนาม อายุ 43 ปี และมีน้องสาว 1 คน คือเด็กหญิงชนิดา สารฤทธิ์ อายุ 5 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านตาอ็อง โดยเวลาเรียนเด็กหญิงพนิดา จะขับขี่รถจักรยานไปโรงเรียนไป-กลับ เอง วันละ 10 กิโลเมตร

ขณะที่ด.ญ.พนิดา รวดเร็ว ก็ได้กล่าวขอบคุณผู้ใจบุญทุกๆคนที่มาช่วยสร้างบ้านให้กับตน และขอสัญญาว่าตนจะตั้งใจเรียนและเป็นเด็กดี เพื่อตอบแทนพระคุณ ที่ท่านได้ให้การช่วยเหลือตน คุณครูที่ปรึกษา ที่มาร่วมงานกล่าวว่า วันนั้นครูที่ปรึกษาได้เดินทางมาเยี่ยมบ้านเด็กนักเรียน ก็ได้พบกับสภาพความเป็นอยู่ของด.ญ.พนิดา รู้สึกเศร้าใจ จึงได้นำไปโพส์ตลงในเฟสบุ๊ก จึงได้เป็นจุดเริ่มต้นที่หลายๆฝ่าย ลงมาช่วยกันสมทบทุนทั้งเงินและวัสดุก่อสร้างในการสร้างบ้านให้กับน้องนครั้งนี้ ส่วนเรื่องการเรียนน้องเขาไม่มีปัญหา เป็นเด็กตั้งใจเรียน มีความสุภาพ เป็นเด็กนิสัยดี

ขณะที่ พ.ต.ท.ถนัด ตินานพ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เทนมีย์ ผู้ประสานงาน กล่าวว่า ตนเห็นโพส์ตของคุณครูที่ว่ามาเยี่ยมบ้าน แล้วเจอสภาพความเป็นของเด็กที่ลำบาก ก็เลยเดินทางมาดูว่าเป็นยังไง พอลงมาดูแล้วสภาพก็อย่างที่ท่านเห็น ก็เลยเป็นสะพานบุญประสานทีมงานให้ ก็เป็นพรรคพวกที่เคยร่วมด้วยช่วยกันมาช่วยเหลือกันสร้าง แล้วก็มีทางทีมงานเพื่อนปกรณ์ก็ได้ช่วยเหลือมาอีกส่วนหนึ่งด้วย ก็เลยปรากฏว่ามีการช่วยสมทบทุนกันคนละห้าร้อย คนละพัน สองพันบาท รวมๆกันไปก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา บางคนไม่ได้ช่วยเป็นเงินแต่ช่วยเป็นวัสดุก่อสร้างมา เพื่ออยากเห็นน้องที่ดูแล้วอยู่อย่างยากลำบาก จะได้มีที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น จึงได้ร่วมด้วยช่วยกันและเกิดโครงการนี้ขึ้นมา โดยตนได้ประสานไปทุกที่ ทั้งนายก อ.บ.ต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และโรงเรียนต่างๆ ปรากฏว่าทุกคนช่วยกันหมด บ้านที่สร้างจะเป็นแบบบ้านปูนชั้นเดียว หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องโล่ง ห้องนอนจะเป็นห้องของน้องเขา ห้องโล่งจะเป็นพ่อกับแม่เขานอน แล้วก็ห้องน้ำและห้องครัวเป็นสัดส่วน งบประมาณที่ใช้อยู่ที่แสนกว่าบาท จะพยายามใช้ให้ประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ คาดว่า 10 กว่าวันคงจะสร้างเสร็จ เห็นว่าทางวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์จะให้น้องๆนักศึกษาเข้ามาช่วยด้วย ทั้งงานก่อสร้างและเดินสายไฟฟ้า ก็คิดว่าน่าจะเสร็จเร็วขึ้น ก็จะพยายามเซฟเงินให้มากที่สุด เพื่อให้เหลือเงินที่จะนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับน้องได้เรียนสูงขึ้นต่อไป สำหรับตนหลังนี้เป็นหลังที่ 14 ที่สร้าง แต่ว่าไม่ใช่เงินตนนะ เป็นเงินสะพานบุญที่ตนกระจายข่าวไป ประสานขอรับการสนับสนุน พรรคพวกก็ได้มีการร่วมด้วยช่วยกันมา มีความสุขในการสร้างเพราะว่าเราทำบุญกับวัดมาเยอะแล้ว เพื่อนๆคุยกันว่าออยากจะมาทำบุญกับคนที่ยากไร้บ้าง แต่ก็ทำควบคู่กันไปอยู่ทั้งคนและวัด.