‘บิ้กโจ๊ก’ แถงข่าวจับ2ผู้ต้องหายิงถล่มบ้าน2หลังแจ้ง5ข้อกล่าวหา 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณีที่นายพีรพงษ์ ขำผุด หรือโต อายุ 40 ปี ใช้อาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม 16 ยิงถล่มใส่บ้านพักนายภาสกร หลินมา อายุ 39 ปี ในท้องที่ ม.4 ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน ในช่วงเวลาประมาณ 23.45 น.เมื่อคืนวันที่ 17 มิถุนายน 2565 หลังจากนั้นก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุยิงข่มขู่อดีตบ้านแฟนสาวเป็นแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กิโลเมตร จนถูกศาลออกหมายจับในคดียิงบ้านพักนายภาสกรฯ และถูก ตร.ไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง และเมื่อตอนค่ำวันที่ 25 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายพีรพงษ์ ในขณะหนีไปกบดานพักอาศัยกับเพื่อนคนหนึ่งในบ้านหลังหนึ่ง ในท้องที่ ม.1 ต.เกาะพงัน อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นนำตัวมาชี้จุดซุกซ่อนอาวุธปืน ณ บริเวณใต้คอสะพานบ้านบางหล่อ ท้องที่ ม.3 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง โดยเจ้าหน้าที่ตรวจยึดอาวุธปืนสงครามชนิดเอ็ม16 หนึ่งกระบอก กระสุนปืน ขนาด 5.56 มม.ชนิด M 855 จำนวน 12 นัด ชองบรรจุกระสุนปืนชนิด M16 แบบบรรจุ 30 นัด จำนวน 1 ซอง ชองบรรจุกระสุนปืนชนิด HK33 แบบบรรจุ 20 นัด จำนวน 1 ซอง และกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด ก่อนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บดีเอ็นเอ และวิถีกระสุนว่าตรงกับกระบอกที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่

ต่อมาเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา พ.ต.ท. ยุทธศักดิ์ เอี่ยมสุนทร รอง ผกก.(สส.)ภ.จว.พัทลุง พร้อมกำลังชุดสืบสวน ภ.9 และกำลัง ตร.ชุดปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สตช. นำหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.238/2565 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2565 ไปจับกุมตัวนายเกียรติศักดิ์ หนูจีนแก้ว อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ขี่ จยย.นำ นายพีร พงษ์ ฯไปก่อเหตุร้ายทั้ง 2 แห่ง ซึ่ง จยย.คันดังกล่าวเป็นจยย.ฮอนด้าเวป สีดำ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนั้น ทาง ตร.ได้ไปตรวจยึดมาได้จากพื้นที่ ม.3 ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เมื่อตอนเย็นวันที่ 25 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ในเบื้องต้นนายเกียรติศักดิ์ ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

และวันนี้ 27 มิถุนายน 2565 เวลา 11.30 น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ควบคุมการปฏิบัติในการสืบสวนติดตามและจับกุมคนร้ายกรณี แถลงข่าวกรณีดังกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายชุดรวมปฏิบัติเร่งไล่ล่ากดดันเพื่อจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ต้องหาหลบหนีกบดานยังพื้นที่ตำบลเกาะพะงัน อำเภอพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยอาศัยพักบ้านเพื่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ลดละจนสามารถติดตามจับกุม คนร้ายได้ จากนั้นก็สามารถติดตามจับผู้ร่วมกระทำความผิดได้ในเวลาต่อมา

จากการสอบนายพีรพงษ์ ขำผุด อายุ 40 ปี ทำหน้าที่เป็นคนยิง (จับกุมได้ที่หน้าบ้าน ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี) นายเกียรติศักดิ์ หนูจีนเสัง อายุ 38 ปี ทำหน้าที่เป็นคนขับรถพาไปยังที่เกิดเหตุ (จับกุมได้ที่หน้าบ้าน ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง) โดยทั้ง 2 คน จะถูกตั้งข้อกล่าวหาหนักจำนวน 5 ข้อกล่าวหา เช่น ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในเมือง หมู่ บ้านโดยใช้เหตุ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ตามคดีอาญา สภ.ควนขนุน 242/2565 นอกจากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นบุคคลเพิ่มพ้นโทษ ทั้งข้อหาพยายามฆ่า และยาเสพติด เมื่อออกมาก็ก่อเหตุซ้ำและพฤติกรรมเดียวกันคือการใช้อาวุธปืนสงคราม

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ทักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ควบคุมการปฏิบัติในการสืบสวนติดตามและจับกุมคนร้ายกรณี กล่าวอีกว่า สำหรับอาวุธปืนที่ยึดได้นั้นก็เป็นอาวุธปืนตราโล่ ที่ใช้ราชการตำรวจ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบที่มาของอาวุธปืนดังกล่าวด้วยว่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ด้วยหรือไม่ และที่ผู้ให้ที่พักพิงกับคนร้ายก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎ หมายเช่นกัน ขณะเดียวกันผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกค้นเป้าหมายให้หมด สำหรับมือปืนรับจ้างนั้นไม่มี หากไม่มีนักการเมืองท้องถิ่นหนุนหลัง และคดีที่ใช้อาวุธปืนในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมและดำเนินคดีได้ทั้งหมด แต่ยังให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการค้นเป้าหมายอย่างต่อเนื่องต่อไป.