ที่เวทีกลางลานวัฒนธรรมเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เหล่าบรรดาคุณย่า คุณยาย ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่งกายชุดไทยและชุดพื้นเมือง รวมประกวดธิดาชรารักษ์ ซึ่งงานนี้ผู้เข้าประกวดทั้ง 13 คน จะต้องเดินอวดโฉมให้กรรมการชมอย่างใกล้ชิด บนเวที 1 รอบ ด้วยลีลาแบบย่องเบา พร้อมโบกมือบ๊ายบายและจุ๊บส่งให้กับผู้ชมด้านล่างเวที จนผู้ชมต่างพากันหัวเราะชอบใจไปทั่วบริเวณงาน จากนั้นแนะนำตัวต่อหน้าคณะกรรมการ และแสดงความสามารถพิเศษ เพื่อให้คณะกรรมการลงคะแนนเลือกผู้เข้ารอบ 4 คนสุด ท้าย งานนี้เหล่าบรรดาผู้เข้าประกวดต่างไม่มีใครยอมแพ้ ทั้งแนะนำตัว อย่างฉะฉาน เดินโปรยเสน่ห์อย่างช้าๆ พร้อมส่งยิ้มให้คณะกรรมการอย่างมั่นใจ แถมบางคนยังงัดไม้เด็ดแสดงความสามารถที่เตรียมมาประ ชันกันอย่างสุดพลัง ไม่ว่าจะเป็นการเต้นประกอบเพลง บาสโลบพาเพลิน รำประกอบเพลง ชะชะช่าเพื่อสุข ภาพ การร้องเพลงสด ฟ้อนรำ และรำไทย เป็นต้น จนเรียกเสียงกรี๊ดดังลั่นจากบรรดากองเชียร์ลูกๆ หลานๆ และพี่เลี้ยงอย่างสนุกสนาน โดยการประกวดดังกล่าวจัดขึ้นโดยหน่วยงานสาธารณสุขอำเภอเบตง ซึ่งเป็นกิจ กรรมหนึ่งในงานของดีเมืองเบตงและงานกึ่งกาชาดอำเภอเบตง ประจำปีนี้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประกวดที่อายุน้อยที่สุดมีอายุ 60 ปี ขณะที่ผู้เข้าประ กวดที่อายุมากที่สุดมีอายุ 71 ปี
มาถึงคิวสำคัญคือการประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย บรรดากองเชียร์ ลูกๆ หลานๆ และพี่เลี้ยงต่างตื่นเต้น กับวินาทีที่จะประกาศผล โดยรางวัลขวัญใจธิดาชรารักษ์ ได้แก่ นางกุมารี เทพเกื้อ อายุ 62 ปี รพ.สต.บ้าน กม.7 ส่งเข้าประกวด ได้รับสายสะพาย เกียรติบัตร และเงินรางวัล จำนวน 2,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นางอารีย์ แซ่หลี อายุ 62 ศูนย์สุขภาพชุมชนสวนน้ำแกรนด์วิลล่า ส่งเข้าประกวด ได้รับสายสะพาย เกียรติบัตร และเงินรางวัลจำนวน 2,000 บาทรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นางจุฑาทิพย์ เรือนคำ อายุ 65 ปี ศูนย์สุขภาพชุมชนศาลาประชาคม ส่งเข้าประกวด ได้รับสายสะพาย เกียรติบัตร และเงินรางวัลจำนวน 3,000 บาทและรางวัลชนะเลิศ ตกเป็นของ ยายกลิ่น หรือ นางกลิ่น ศรีสร้างคอม อายุ 64 ปี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล ธานน้ำทิพย์ส่งเข้าประกวด ได้รับสายสะพาย เกียรติบัตร และเงินรางวัลจำนวน 4,000 บาท โดยมีนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง นางมุกดา ยังอภัย ณ สงขลา นายกกิ่งกาชาดอำเภอเบตง และนายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง ร่วมมอบของรางวัล
นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณ สุขอำเภอเบตง กล่าวว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ หน่วยงานในสังกัดสาธารณสุขอำเภอเบตง จึงได้เปิดรับสมัครสตรีสูงอายุเข้าร่วมประกวดธิดาชรารักษ์ โดยมีภูมิลำเนาในพื้นที่อำเภอเบตง หรือประกอบอาชีพในอำเภอเบตง ต้องมีอายุ60 ปี ขึ้นไปมีสุขภาพแข็งแรง และมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดส และที่สำคัญเพื่อให้สตรีที่เข้าประ กวดรู้สึกว่าตัวเองยังคงมีไฟอยู่เสมอ และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงคือการมีความสุขกับการใช้ชีวิต และรู้สึกว่าชีวิตไม่ได้หยุดลงเมื่อถึงวัยใดวัยหนึ่ง ซึ่งสาธารณสุขอำเภอเบตงพร้อมส่งเสริมให้เกิดสังคมที่อยู่ร่วมกับความแตกต่างในช่วงวัยได้อย่างมีความสุข.
Discussion about this post