
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 10 ก.ค. 65 บรรยากาศฮารีรายอฮัจยี หรืออีดิลอัฎฮา ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเป็นไปอย่างคึกคัก ภายหลังจุฬาราชมน ตรีกำหนดให้วันที่อาทิตย์ ที่ 10 ก.ค. 2565 เป็นวันฮารีรายออีดิลอัฎฮาโดยตั้งแต่รุ่งเช้า พี่น้องมุสลิมต่างพาลูกๆไปสุสานที่ฝั่งบรรพบุรุษ เพื่อสวดดูอาร์ขอพรให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ จากนั้นเวลา 07.00 น พี่น้อมุสลิมเดินทางไปมัสยิดใกล้บ้านเพื่อทำการละหมาดในวันฮารีรายอ ซึ่งปีนี้จะคึกคักภายหลังสถานการณ์โควิด 19คลี่คลายลง โดยพี่น้องมุสลิมแต่งชุดมาลายูอย่างสวยงาม เดินทางมาละหมาดร่วมกันทามกลางมาตรการป้องกันโควิด19 ยังเข้มงวด ก่อนรับฟังการบรรยายธรรม และพี่น้องมุสลิมร่วมกันสลามซึ่งกันและกัน เพื่อขออภัยสิ่งที่ล่วงเกิน
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในช่วงเช้า พี่น้อมุสลิมจึงได้แยกย้ายกันไปทำกุรบ่าน หรือการเชือดสัตว์ ซึ่งจะนิยมเชือดวัว เพื่อพลีเป็นทานนำเนื้อไปแจกจ่าย โดยจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนหนึ่งให้คนจน ผู้ยากไร้ และส่วนที่สองคนที่ต้องการ อีกส่วนให้เก็บที่บ้าน อีกทั้งแต่ละครัวเรือนจะมีการจัดงานเลี้ยงในเครือญาติ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น

ขณะที่การเชือดวัวปีนี้ พบว่าน้อยที่สุดในรอบหลายปี เดิมที่แต่ละบ้านจะมีการซื้อวัว 1-2 ตัว มาเชือด แต่ปีนี้พี่น้องมุสลิมต้องหุ้นกับเพื่อนบ้านในการซื้อวัว เนื่องจากราคาวัวค่อนข้างสูง สืบเนื่องราคาน้ำมันแพง การขนส่งวัวมีการปรับราคาขึ้น ทำให้บรรยา กาศการเชือดวัวปีนี้เงียบเหงา นอกจากนี้ฮารีรายออีดิลอัฎฮา ก็จะมีพี่น้องมุสลิมบางส่วนได้เดินทางประกอบพิธีฮัจญ์ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอารเบียเช่นกัน.
Discussion about this post