นายชัยศักดิ์ ศรีพนามน้อย อายุ 48 ปี ชาวบ้านบ้านเกิ้ง ปมู่ที่ 5 ต.เกิ้ง อ.เมือง มหาสารคาม พร้อมเกษตรกรผู้เดือดร้อน เดินทางเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว โดย นำภาพมุมสูงบริเวณแหล่งน้ำหนองขี้เป็ด ในตำบลเกิ้ง อำเภอเมืองมหาสารคาม แสดงให้เห็นว่าได้มีการขุดลอกโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองขี้เป็ด พื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ซึ่งพื้นที่รอบโครงการฯ รัศมี 1 กิโลเมตร น้ำได้ท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ข้าวนาปรังของเกษตรกรหลายรายนับ 50 ไร่ ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ส่วนเกษตรกรหลายรายที่กำลังทำข้าวนาปีและได้หว่านข้าวไว้ต้องนำเครื่องสูบน้ำติดตั้งไว้เพื่อสูบน้ำที่ได้ท่วมขัง สูญเสียเงินซื้อน้ำมันวันละหลายร้อยบาท บางรายยังไม่ได้ทำเนื่องจากระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร
นายชัยศักดิ์ ศรีพนามน้อย กล่าวว่า ก่อนที่จะมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชน นั้น เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ตนเองและผู้ได้รับเดือดร้อนซึ่งเป็นเกษตรกรจากตำบลเกิ้ง และตำบลลาดพัฒนา อ.เมืองมหาสารคาม รวม 65 ครัวเรือน ได้ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม ถึงการได้รับผลกระทบจากโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองขี้เป็ด โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ สำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 4จ.ขอนแก่น ซึ่งเมื่อผู้รับเหมางานมาขุดลอกตามโคงการฯ ได้ทำการปิดกั้นห้วยก้านเหลือง ซึ่งเป็นลำห้วยสาธารณะ ใช้สำหรับระบายน้ำในพื้นที่ลงสู่หนองขี้เป็ด จากกรณีดังกล่าว ประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝน ทำให้ระดับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเอ่อท่วมขังพื้นที่นาข้าวเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบต่อราษฎรในพื้นที่ทำการเพาะปลูกข้าวหลายร้อยไร่ ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดกั้นทางน้ำลำห้วยก้านเหลือง ครั้งนี้ ทั้งนี้น้ำยังท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดกับลำห้วยก้านเหลือง ได้รับความเสียหาย และพื้นที่ที่กำลังจะทำการเพาะปลูกข้าวไม่สามารถทำการเพาะปลูกข้าวได้ และราษฎรที่ทำนาปลัง ข้าวกำลังออกรวงใกล้เก็บเกี่ยว น้ำได้ท่วมขัง ข้าวเน่าเสียหายจำนวนมาก ส่วนนาปี เกษตรกรหลายรายต้องลงทุนทำไปแล้ว 2-3 รอบ ก็ยังท่วมขังเช่นเดิม
ทั้งนี้ ยนายชัยศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรแทบทุกคนต้องกู้เงิน ธ.ก.ส. มาลงทุนทำนาปรังและนาปี ซึ่งหากถึงเวลาจ่ายเงินก็จะนำเงินที่ได้จากการทำนาข้าวไปจ่ายหนี้กับ ธ.ก.ส. ซึ่งหากพ้นเดือนกรกฎาคม นี้หากไม่ได้ทำนาข้าว ชาวนาที่มีอาชีพทำนาเพียงอย่างเดียว จะนำเงินที่ไหนไปจ่ายหนี้สินที่ยืมมากับ ธ.ก.ส. ทำให้ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว ..
ต่อมา ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคามมีหนังสือ แจ้งมายังตนเอง ว่า ได้แจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทราบ และกำลังดำเนินการแก้ไข ซึ่ง พวกตนนั้นไม่มั่นใจว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน เกษตรกรที่เดือดร้อน จะอยู่กันอย่างไร จึงร้องเรียนมาทางสื่อมวลชนช่วย กระตุ้นอีกทางหนึ่งด้วย
///////
ทีมข่าว /มหาสารคาม
Discussion about this post