
วันนี้ 21 ส.ค.65 ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา อ.เมือง ฉะเชิงเทรา นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิง เทรา เป็นประธานในพิธีสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานภายในศาลหลักเมือง เนื่องในงานทิ้งกระจาด ประจำปี 2565 พร้อมด้วยนางจันทรรัตน์ ไตรติลานันท์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฉะเชิง เทรา นายพูลทรัพย์ สมบูรณ์ปัญญา รองผวจ.ฉะเชิงเทรา นายเดชาวุฐ ธีรภัทรไพศาล ประธานกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน นักเรียน นักศึกษา และคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา เข้าร่วมประกอบพิธี
นายเดชาวุฐ ธีรภัทรไพศาล ประ ธานกรรมการศาลเจ้าพ่อหลัก เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การจัดงานทิ้งกระจาด เป็นประเพณีที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ คนรุ่นก่อนได้มีจิตเป็นกุศลจัดงานมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ให้ถือวันที่ 24 เดือน 7 ของจีนทุกปีเป็นกำหนดเวลาทิ้งกระจาดแจกทาน ในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2565 โดยพิธีกรรมที่จัดขึ้นประกอบด้วย ไหว้สักการะบูชาเทพยดาฟ้าดิน(ทีกง)และองค์เจ้าพ่อหลักเมือง เทพเสาหลักเมือง ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษ ฐานภายในศาลหลักเมือง พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ คณะสงฆ์จีนสวดมนต์ทำพิธีโปรดดวงวิญญาณไร้ญาติ(หอเฮียตี๋) องค์โป๊ยเซียนโจวซือจากมูลนิธิสว่างศรัทธาธรรมสถานกุศลธรรมมูลนิธิประทับทรงเจิมของไหว้ และจัดให้มีงิ้วสมโภชตลอดงาน ส่วนในช่วงเย็น เป็นการแจกข้าว สารอาหารแห้งแก่ผู้ประสบความเดือดร้อนและประชาชนผู้ยากไร้
ประธานกรรมการศาลเจ้าพ่อหลัก เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวต่อว่า ประ เพณีทิ้งกระจาดคือการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษเป็น การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่วิญญาณบรรพบุรุษและดวงวิญ ญาณไร้ญาติซึ่งชาวจีนนับถือปฏิบัติกันมากว่าพันปีแล้ว สำหรับประเทศไทย การทิ้งกระจาด ชาวจีนได้นำมาเผยแผ่ 200 กว่าปี ซึ่งนิยมจัดในช่วงเทศกาลสารทจีนเดือน7 จีนตลอดทั้งเดือน ดังเช่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทราเป็นที่ประดิษฐาน องค์เจ้าพ่อหลักเมือง ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนเคารพนับถือมาช้านานในทุกๆปีจะจัดงานทิ้งกระจาดแจกข้าวสารให้ทานแก่ผู้ยากไร้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตที่ไร้ญาติที่ไม่มีผู้ใดทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้และเพื่อเป็นการล้างหนี้กรรมตามความเชื่อกันว่า มนุษย์เมื่อเสียชีวิตละสังขารของตัวเองไปแล้วก็จะอยู่ในโลกของวิญญาณจะต้องกินอาหารทิพย์หรือต้องได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่มีผู้ทำบุญส่งมาให้เท่านั้นไม่เช่นนั้นก็จะอดด้วยความทุกข์ทรมาน และประชาชนที่ได้รับข้าวสารไปแล้วจะร่วมกันอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณไร้ญาติเพื่อความเป็นสิริมงคล.
Discussion about this post