
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 ที่ลานกาแฟเรือนจำชั่วคราวเขาน้อย ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน นายวิบูลย์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดเปิดกาดนัดม่วนใจ ตลาดนัดจำหน่ายสินค้าการเกษตรเพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน โดยมีนายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดน่าน และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ได้มีนโยบายให้กรมราชทัณฑ์พัฒนาพื้นที่เรือนจำ/ทัณฑสถาน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมและให้โอกาสผู้ต้องขังได้ฝึกทักษะด้านอาชีพต่างๆ และสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพภายหลังพ้นโทษได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้สนองนโยบายโดยการสนับสนุน ส่งเสริมและกำหนดให้เรือนจำที่มีเรือนจำชั่วคราวในสังกัด พัฒนาพื้นที่เป็นเรือนจำท่องเที่ยวพร้อมเปิดให้ชุมชนในพื้นที่นำผลิตภัณฑ์สินค้าทางเกษตร พืชผักสวนครัว นำมาจำหน่าย โดยทางเรือนจำ ได้จัดที่นั่งที่วางของให้กับประชาชน โดยทางเรือนจำจังหวัดน่าน จะจัดจัดตลาดนัดจำหน่ายสินค้าการเกษตร ทุกวันพฤหัสบดี ของทุกสิ้นเดือน ฟรี

ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดน่าน โดยเรือนจำชั่วคราวเขาน้อย จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมโครงการตลาดนัดจำหน่ายสินค้าการเกษตรเพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน (กาดนัดม่วนใจ) ขึ้นเพื่อพัฒนาพื้นที่เรือนจำชั่วคราวเขาน้อย ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล โดยได้จัดสถานที่เพื่อการสาธิต และจัดกิจกรรมที่ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมลงมือทำปฏิบัติ เช่น การทำปุ๋ย การปั่น การให้อาหารสัตว์ ฯลฯ จัดทำปฏิทินการจัดงานด้านการท่องเที่ยวและวันสำคัญต่างๆของจังหวัด สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน เช่น การจัดทำเพาะกล้าและขยายพันธุ์ดอกไม้ประดับสำหรับปลูกประดับตกแต่งพื้นที่ตามเทศกาลและวันสำคัญของจังหวัด และจัดตลาดนัดหรือพื้นที่จำหน่ายสินค้าการเกษตร เพื่อช่วยลดค่าครองชีพ
ทางด้าน นายวิบูลย์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า โครงการตลาดนัดจำหน่ายสินค้าการเกษตรเพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน (กาดนัดม่วนใจ) เป็นกิจกรรมสนองนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมการพัฒนาพื้นที่เรือนจำชั่วคราว เขาน้อยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและให้โอกาสผู้ต้องขัง ได้ฝึกทักษะด้านอาชีพต่างๆและสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพภายหลังพ้นโทษ สามารถนำไปประกอบอาชีพสร้างเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว ได้อย่างยั่งยืน และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดน่าน และลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนได้อีกและช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดน่านด้วย
.
Discussion about this post