
เมื่อวันที่ 27 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่ บ้านหนองตะพาน ม.2 ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง กรณีที่มีชาวบ้านถ่ายคลิป คนแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ เดินแก้ผ้า ถือจอบ ถือไม้ อยู่ริมถนนในหมู่บ้าน สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ที่สัญจรไปมา และคนในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก
เมื่อเดินทางไปถึงในหมู่บ้าน ก็ได้พบกับผู้ชายในคลิป สวมใส่จีวรพระ กำลังเดินแบกท่อนไม้ยาวประมาณ 2 เมตร เดินอยู่ริมถนน พอชาวบ้านขับรถผ่านก็จะออกอาการชูไม้จะทำร้าน ทำให้ผู้ที่สัญจรไปมาต้องหลบกันวุ่น ต่อมาชายคนดังกล่าวได้ถอดจีวรออกทั้งหมด จนเปลือยกายล่อน จ้อน เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวและชาวบ้านเดินเข้าไปใกล้ ก็ปรี่เข้าหาพร้อมด้วยจอบในมือ พร้อมตะโกนด่าด้วยความหยาบคาย และ ขู่ห้ามถ่ายรูปและเข้าใกล้ ก่อนจะเดินหนีไป
จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ต่างก็เอือมระอากับพฤติกรรมของหนุ่มเพี้ยนคนดังกล่าว เพราะชอบตะโกนด่าไปทั่ว จนเป็นที่หวาดกลัวและเอือมระอาต่อชาวบ้านในหมู่บ้าน บางครั้งก็นุ่งโสร่ง แต่ส่วนใหญ่จะห่มจีวรเลียนแบบพระสงฆ์ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพาตัวไปรักษา เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้อาจจะทำร้าย หรือ ทำให้เกิดอุบัติ เหตุต่อผู้ใช้รถใช้ถนน
ด้านนายพิทยา พลโสภาพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.หนองตะพาน ได้กล่าวว่า สำหรับหนุ่มเพี้ยนชื่อ นายเพียรสิก อายุ 59 ปี เป็นคนเดียวกับที่ไปก่อกวนคนตักบาตร จนถูกทำร้าย ใน บขส.เก่า ระยอง โดยเป็นคนในหมู่บ้าน แต่สติไม่ดี จึงไปอาศัยอยู่ที่ขนำในที่สาธารณะ แต่ก็อยู่บ้างไม่อยู่บ้าง เคยนำตัวไปที่ โรงพยาบาลพุทธโสธร ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ได้ออกเอกสารมาแล้วว่านายเพียรสิกมีอาการทางจิต สาเหตุอาจเกิดจากการใช้ยาเสพติดบางประเภทติดต่อกัน จนอาจจะทำให้เกิดอาการหลอน ซึ่งทางโรงพยาบาลก็มีการให้ ยามารักษา แต่เนื่องจากเจ้าตัว ไม่ยอมทานยาเพราะคิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไร จึงไม่ได้รับการรักษาด้วยยา อาการจึงกำเริบ ทำให้มีอาการดังที่เห็นในคลิป และมีอาการกำเริบบ่อยๆ หลังจากที่นายเพียรสิก เริ่มมีอาการรุนแรงขึ้น ก็ได้แจ้งไปที่อำเภอบ้านค่าย ซึ่งได้ประสานงานให้สาธารณสุขจังหวัดระยอง เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ติดตามญาติของเพียรสิก มา ช่วยกันดูแลก่อน เพื่อเตรียมส่งตัวไปรักษาต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านขายของชำเลขที่ 188/8 ม.1 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง หลังได้รับการร้อวเรียนจากนางสุภาพร มั่งคำ อายุ 28 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ทำทีเป็นเซลส์ขายส่งสินค้า หลอกขายสินค้าสอดไส้ให้จนต้องสูญเสียเงินกว่าหมื่นบาท
โดยนางสุภาพร ได้เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะเปิดร้านขายของชำตามปกติ ได้มีผู้ชาย 4 คน ขับรถยนต์กระ บะสี่ประตู สีบรอนส์ ยี่ห้อนิสสัน จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ มาจอดและลงมาที่ร้าน พร้อมแสดงตัวว่าเป็นพ่อค้าส่งของ เข้ามาสอบถามว่าขายมานานหรือยัง ไม่ค่อยมีสินค้าเลย พร้อมบอกว่าจะเอาสินค้ามาส่งให้ในราคาถูกกว่าร้านค้าทั่วไป ตนเองจึงบอกให้ลองนำสินค้ามาดูก่อน
หลังจากนั้นทางผู้ชายทั้งสี่คนได้โทรศัพท์ออกไป สักพักก็มี รถกระบะ สี่ประตูสีน้ำเงินยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 3 กน-9311 กรุงเทพมหา นคร ขับมาจอดที่หน้าร้าน โดยมีผู้ชายลงมาจากรถทั้งหมด 6 คน และ เริ่มนำสินค้าลงมาจากรถ มานำเสนอ ซึ่งมีทั้ง น้ำอุดลม น้ำเกลือแร่ ขนม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สบู่ และ อีกหลายรายการรวม 49 สินค้า ซึ่งตนเองเห็นว่าราคาถูกกว่าไปซื้อเอง และ ไม่ต้องเดินทางไปอีกด้วย จึงตกลงซื้อสินค้าทั้ง หมด 49 รายการ รวมเป็นเงิน 15,970 บาท หลังจากยกสินค้าซึ่งใส่ลังลงมาเรียบร้อยแล้วทั้งหมดก็ทยอยกันออกจากร้าน
นางสุภาพร เปิดเผยต่อว่า หลังจากทั้งหมดกลับไป ทางตนเองก็เจรียมจะนำสินค้าที่ซื้อมาออกจากลัง เพื่อนำไปจำหน่าย พอเปิดลังก็แทบช็อก เพราะว่าสินค้าภายในลังมีไม่ครบ ตามจำนวนที่สั่งซื้อ จึงเปิดลังทุกลังก็พบว่าถูกหลอกแล้ว นับราคาสินค้าทั้งหมด มีราคาเพียง 5 พันกว่าบาท จึงพยายามออกไปตามหาแต่ก็ไม่พบแล้ว จึงรู้ว่าถูกหลอก เลยตรวจสอบกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพมิจฉาชีพกลุ่มนี้ไว้ได้ จึงเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความต่อไป พร้อมทั้งขอฝากเตือนร้านค้าทุกร้าน อย่าได้หลงกลกลุ่มมิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบใหม่ ทำ ตัวเป็นเซลส์ แล้วหลอกขายสินค้า แต่กลับได้สินี้าไม่ครบตามจำนวนเงินที่เสียไป หากจะซื้อต้องตรวจสิบอย่างละเอียดจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเหมือนกับตนเอง นางสภาพร กล่าว สำหรับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ได้ตระเวณออกหลอกลวงร้ายค้าหลายแห่ง โดยพบว่าล่าสุดไปก่อเหตุที่ จ.ปราจีนบุรี จนทำให้เหยื่อสูญเงินไปร่วมแสนบาท.
Discussion about this post