
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามผลกระทบของอิทธิพลของพายุ “โนรู” ซึ่งวันนี้ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้หลายพื้นที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 แห่ง ของโครง การชลประทานกาฬสินธุ์ ซึ่งจากข้อมูลศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดพบว่ามีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 6 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์, อ่างเก็บน้ำห้วยสังเคียบ, อ่างเก็บน้ำห้วยจาน, อ่างเก็บน้ำหนองหญ้าปล้อง, อ่างเก็บน้ำหนองหมาจอก และอ่างเก็บน้ำหนองบ้านสา มีปริมาณน้ำเกินระดับกักเก็บ 100 เปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งพร่องน้ำลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีบางแห่งปริมาณน้ำเอ่อล้นออกจากอ่าง แต่ก็ติดอุปสรรควัชพืชจำนวนมากกีด ขวางทางน้ำไหล ทั้งนี้เบื้องต้นยังไม่มีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตร และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ขณะที่สถานการณ์อ่างเก็บน้ำ เขื่อนลำปาว ล่าสุดมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้นอีก 19 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,593 ล้าน ลบ.ม.จากความจุระดับกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ ยังสามารถรับน้ำได้อีกกว่า 386 ล้าน ลบ.ม.ส่วนระดับน้ำที่เขื่อนวังยาง อ.ฆ้องชัย ล่าสุดมีระดับน้ำอยู่ที่ 140.34 ม.รทก. (เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) จากระดับกักเก็บปกติ 137 ม.รทก. เจ้าหน้าที่ยังปักธงสีแดงประกาศเตือนสถานการณ์ระดับน้ำอยู่ในภาวะวิกฤต เพื่อให้ประชาชนระมัดระวังอย่างสูงสุด ซึ่งนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ยังมอบหมายให้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬ สินธุ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่ติดกับแม่น้ำชี และเตรียมพร้อมรับมวลน้ำที่คาดว่าจะเริ่มไหลมาจาก จ.ชัยภูมิ และ จ.ขอนแก่นอีกด้วย

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า เกิดเหตุระทึกขึ้นที่บริเวณหน้าที่ว่า การอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ติดกับศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ หลังเก่าจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ต้นถ่อนขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปี โค่นล้มทับรถยนต์ของประชาชนเสียหาย 3 คัน เป็นรถเก๋ง 2 คัน และรถกระบะ 1 คัน โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ในรถ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ได้นำเลื่อยยนต์และอุปกรณ์เข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว.
Discussion about this post