“ศรีสะเกษ” ชาวบ้านทึ่ง !! รถไถดำน้ำ ช่วยชาวบ้านติดเกาะนานเกือบเดือน ขณะที่ ผอ.โครงการชลประทานฯ เผยข่าวดี น้ำเริ่มลด 

ผู้สื่อข่าวรางงานว่า หลังจากที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ศรี สะเกษ หลายอำเภอได้รับผลกระทบ เนื่องจากมวลน้ำที่ไหลมาจากลำห้วยสายต่างๆ ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัม พูชา มาบรรจบกับลำน้ำมูล ที่ไหลมาจาก จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ก่อนที่จะไปสมทบกับลำน้ำชี ก่อนไหลผ่าน จ.อุบลราชธานี ลงสู่ลำน้ำโขง ส่งผลทำให้มีปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่งสูงถึง 3-4 เมตร ราษฎรได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ต้องใช้ชีวิตแช่น้ำมาเป็นเวลานานร่วมเดือน

ล่าสุด นายจำรัส สวนจันทร์ ผอ.โครงการชลประทานศรีสะ เกษ เปิดเผยข่าวดีว่า จากการสำรวจระดับน้ำในรอบ 6 ชั่วโมง พบว่า ทุกสถานีวัดน้ำ (M) ต่างๆ มีปริมาณน้ำลดลง รวมทั้งที่ จ.บุรี รัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี ก็ลดลงเช่นกัน ในระดับ 4-20 เซนติ เมตร โดยสถานี (M) ที่มีปริมาณน้ำลดลงมากที่สุด คือที่ สถานี M176 ลำห้วยขยูง อ.กันทรารมย์ ลดลง 20 เซนติเมตร และสถานี M42 ลำห้วยทับทัน อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ลดลง 19 เซนติเมตร ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติคาดว่าจะใช้เวลาประมาณปลายเดือนตุลาคมนี้

ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนเคหะ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จำนวนกว่า 1,600 หลัง ถูกน้ำท่วมเส้นทางเข้าออก ซึ่งมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว ประมาณน้ำสูงกว่า 1 เมตร เป็นระยะทางกว่า 300 เมตร บ้านเรือนของประชาชนบางส่วนถูกน้ำท่วมขังมานานเกือบเดือนจนเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็นฟุ้งไปทั่ว ได้รับความเดือดร้อน ส่วนชาวบ้านที่มีรถยนต์เก๋ง และปิกอัพ รวมถึง จยย. ที่ติดอยู่ในเกาะหมู่บ้าน ต่างพากันเร่งรีบขนรถออกจากเกาะ เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ ว่าน้ำจะลดลงเมื่อไหร่

อีกทั้งได้รับความเดือดร้อนไม่มีรถขี่ไปทำงานมาเกือบเดือน จึงตัดสินใจเอารถขึ้นรถไถพ่วงท้ายของชาวบ้านที่มาช่วยขนย้าย ลุยน้ำออกไป ซึ่งเจ้าของรถต่างรู้สึกลุ้นเพราะแม้แต่รถไถที่มาช่วยขน ยังจมหายไปทั้งคัน อีกทั้งเกรงว่าน้ำจะเข้าไปในตัวรถ เพราะรถที่ขนค่อนข้างเตี้ย แต่แล้วรถไถคันดังกล่าว ก็สามารถดำน้ำขนรถของชาวบ้านออกมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งในแต่ละวันจะสามารถขนย้ายได้วันละกว่า 100 คัน ส่วนค่าขนย้าย คนขับบอกว่า แล้วแต่จะให้ช่วยค่าน้ำมันและค่าสึกหรอ แต่ถ้าไม่มี ไม่ให้ก็ไม่เป็น ไร เพราะตนมาทำเพื่อจิตอาสา อยากที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว.