
เจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารม้าที่ 9 กองพลทหารราบที่ 4 ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 กองกำลังนเรศวร ได้มีการจัดกำลังพลลาดตระเวน ตลอด 24 ชั่วโมง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการ ดูแลรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยแก่ราษฏรชาวไทย บริเวณ ใต้สะ พานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ในพื้นที่ บ้านริมเมย หมู่ ที่ 2 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุ ระเบิด 2 จุดในพื้นที่จังหวัดเมียวดี ซึ่งอยู่พื้นที่ตรงข้าม แต่ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อ ฝั่งไทย ซึ่งพบว่าวันนี้ ที่ตลาดริมเมย ตลาดชายแดน ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมา จับจ่ายซื้อสินค้า อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เหตุระเบิดดังกล่าว ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสิน ค้าข้ามแดนระหว่างประเทศไทยและเมียนมา ในฝั่งอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เนื่องจากขณะสะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 1 ที่เชื่อมต่อพื้นที่จุดเกิดเหตุ ยังคงปิดการข้ามแดนระหว่างประเทศจากสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา โดยการขนส่งสินค้าข้ามแดน ปัจจุบันใช้การขนส่งสินค้าข้ามสะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่2 เป็นหลัก ซึ่งทั้งสองสะพานอยู่ห่างกันมากกว่า 7 กิโลเมตร โดยวันนี้การขนส่งสินค้ายังคงปกติ
ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้า ที่ฝ่ายความมั่นคงเมียนม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ฝั่งเมียนมาตรวจสอบทราบว่า เหตุระเบิดเกิดจากการระเบิดภายในรถยนต์คันหนึ่ง ที่ได้รับความเสียหายทั้งคัน อาคารที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เป็นสถานที่หน่วยงานราชการ ได้รับความเสียหาย จำนวน 12 ห้อง รถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้เคียง ถูกเพลิงไหม้เสียหาย จำนวน 4 คัน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย ทราบชื่อ นางตู่ส่าโซ อายุ 38 ปี ชาวมุสลิม ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณโหนกแก้ม อาการไม่สาหัส ถูกส่งรักษาที่โรงพยาบาลเมียวดี
ส่วนอีกจุดเกิดเหตุบริเวณย่านธุรกิจของเมืองเมียวดี ตั้งอยู่ติดกับสำนักงาน กองกำลังป้องกันชายแดน BGF ทำให้มีอาคารป้อมยาม ถูกเพลิงไหม้เสียหาย 2 หลัง และประตูบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ได้รับความเสียหาย โดยสรุปความเสียทั้ง 2 จุด มูลค่ารวม กว่า 109 ล้านจั๊ด หรือคิดเป็นเงินไทย กว่า 1.5 ล้านบาท.
Discussion about this post