
วันที่ 27 ตุลาคม 2565 จากกรณีเพจดังจังหวัดสมุทรปราการ “ข่าวสารเมืองปราการ วี2” ประกาศตามหาคนหาย เมื่อ 30 กันยายน 2564 ข้อความว่า ประกาศตาหาคนหาย นายวัลลภ เอี่ยมสุวรรณ (ดุ๊ก) อายุประมาณ 32 ปี ติดต่อเบอร์แม่ 0970807982 หายไปตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 64 วันนี้ครบ 1 เดือนแล้วที่หายไป หายจาก ที่ตำหรุ บางปูใหม่ สมุทรปราการ เบื้องต้นมารดาแจ้งว่าลูกชายมีอาการป่วยทางประสาท ชอบเดินไปเรื่อยๆ ตอนนี้แม่เป็นห่วงมาก ใครพบเห็นโทรหาแม่เค้าได้เลยนะคะ หรือติดต่อมาที่แนน ได้เลยค่ะ 0998239461
โดยมีการนำเสนอผ่านสื่อโทรทัศน์ ไทยรัฐทีวีนิวส์โชว์ ขณะนั้นคุณแม่ของนายดุ๊ก คือ นางสาวทัศนี พร้อมสิ้น อาชีพแม่บ้านบริษัทแถวๆ นิคมอุสาหกรรมบางปู (ขณะนั้นยังมีชีวิตอยู่) ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า นายดุ๊กเคยรักษาอาการทางประสาทที่สถาบันจิตเวชสมเด็จเจ้าพระยาฯ แล้วหลังจากที่ไม่ได้ทานยาก็มีอาการก้าวร้าวและหลงลืมในวันที่ 30 สิงหาคม 2564 วันที่หายตัวไปนายดุ๊กได้กลับมาถึงบ้านแล้วเอาจักรยานยนต์มาเก็บแล้วเดินออกจากบ้านไป หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้อีกเลย ตอนนั้นแม่ได้ไปถามที่ทำงานเพื่อนที่ทำงานบอกว่านายดุ๊กได้ลาออกไปแล้ว หลังจากนั้นแม่ได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.บางปู ผ่านไปปีเศษล่าสุดเจอตัวแล้วที่หมู่บ้านสว่าง หมู่ 10 ตำบลหนองแดง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน ริมชายแดนไทย-ลาว จังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่ติดต่อญาติตามเบอร์เจอข่าวเศร้าทั้งแม่และพ่อนายดุ๊กเสียชีวิตก่อนหน้า 3 เดือน หลังติดตามหารอคอยลูกกลับ หมดโอกาสพบหน้า เหลือแต่ตากับยายวัย 80 ปีเศษ ส่วนนายดุ๊ก ยังมีอาการจิตเวช พูดไม่รู้เรื่องต้องส่งรักษาแผนกจิตเวชที่โรงพยาบาลน่าน ให้หายก่อน
โดยเรื่องราวถูกเปิดเผย เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2565 เวลา 19.00 น. ชาวบ้านบ้านสว่าง หมู่ที่ 10 ตำบลหนองแดง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-ลาว แจ้งว่าพบชายแปลกหน้าลักษณะต้องสงสัยเดินอยู่ภายในหมู่บ้าน จึงแจ้งให้ ร.ต.ท. อนันต์ ไชยวุฒิ รักษาราชการแทน ผบ.หมวด 3241 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 324 ฐานปฏิบัติการบ้านสว่าง จึงรายงานใฟ้ พ.ต.ท.พิเชษร์ หมายมี ผบ.ร้อบ ตชด. 324 , ร.ต.อ.วิรัช ปินคำ รอง ผบ.ร้อยฯ
ฐานปฏิบัติการบ้านสว่าง ต.หนองแดง อ.แม่จริม จ.น่าน ทราบ พร้อมเดินทางไปตรวสอบร่วมด้วย ผญบ.สมัคร ยอดออน
พร้อมด้วย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครตำรวจตระเวนชายแดนหมู่บ้านเข้าตรวจสอบ ไม่พบเอกสารแสดงตนและให้การวกวน แจ้งแต่เพียงว่าจะเดินข้ามไปประเทศ สปป.ลาว เพื่อเดินทางไปประเทศจีน โดยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ผู้ใหญ่บ้านบ้านสว่างได้ จึงนำตัวส่งให้ฝ่ายปกครองอำเภอแม่จริม ทำการตรวจสอบโดย นายสิทธิชัย ชัยมงคล ปลัดอำเภอแม่จริม เล่าว่า ได้ซักถามชายต้องสงสัยรายดังกล่าว ให้การว่าตนถือสัญชาติ 5 สัญชาติ คือ ไทย ลาว จีน สหรัฐ และสัญชาติพิเศษ จึงชวนคุยไปเรื่อยเพื่อพยามยามสอบถามชื่อ พยายามอยู่นานจนถามว่าชื่อ ที่ใช้ในประเทศไทยชื่ออะไร จนชายต้องสงสัยรายดังกล่าวตอบมาว่าชื่อ นายวัลลภ เอี่ยมสุวรรณ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เช็คกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ พบว่ารูปถ่ายมีลักษณะคล้ายกัน เมื่อเอาชื่อดังกล่าวค้นหาในอินเตอร์เน็ต พบมีประกาศตามหาคนหาย เจ้าหน้าที่จึงได้ติดต่อตามเบอร์โทรดังกล่าวไม่สามารถติดต่อได้ จึงติดต่อประสานงานไปยังผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อติดต่อให้ญาติยืนยันตัวตนและมารับตัว ทางผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่าพ่อและแม่ของนายดุ๊ก ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา จะเหลือเพียงตากับยายอายุ 80 กว่าไม่สามารถเดินทางไปรับได้ และญาติใกล้ชิดที่เหลืออยู่ของนายดุ๊ก คืออา ก็ยังพักฟืนอาการหลังการผ่าตัดยังไม่สะดวกไปรับ โดยพ่อและแม่ของนายดุ๊ก ยังมีเงินประกันชีวิตที่รอให้นายดุ๊ก มารับมรดกอยู่ ทางฝ่ายปกครองจึงติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลแม่จริม เพื่อทำการรักษาเนื่องจากนายดุก พูดจาไม่รู้เรื่องมีอาการทางจิตเวชชัดเจนเกรงจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง

ด้าน นายแพทย์กนก พิพัฒน์เวช รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลน่านได้รับแจ้งว่า มีชายอายุ 33 ปี มีอาการพูดจาวกวน มีการส่งต่อมาจากโรงพยาบาลแม่จริม จากการประเมิณอาการเบื้องต้นที่โรงพยาบาลน่านโดยจิตแพทย์ พบว่าอาจมีความผิดปกติทางสภาพจิตใจ แต่ชายรายดังกล่าวปฏิเสธการรักษาอ้างว่าไม่ได้ป่วย แต่คงเป็นไปตาม พรบ.สุขภาพจิต ที่ต้องรักษาอาการโดยต้องนอนที่โรงพยาบาลน่าน โดยหลังจากนี้จะได้ทำการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลน่านเพื่อให้ชายรายดังกล่าวมีสติและรู้สึกตัวดีก่อน รวมทั้ง จะได้ประสานงานกับทางญาติเพื่อวางแผนการรักษาก่อนที่จะส่งตัวกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดสมุทรปราการ
ด้าน พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.จ.น่าน กล่าวหลัง จากเดินทางมาสอบถามนายดุ๊ก ที่โรงพยาบาลน่าน ว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดน่านได้รับแจ้งจากพ.ต.อ.สุวัตน์ จินดาวรรณ รรท.ผกก.
สภ.แม่จริม ว่า ได้พบผู้ที่สูญหายและมีการแจ้งความไว้แล้วมาพบตัวที่แม่จริม เบื้องต้นได้สั่งการให้ ผกก.สภ.แม่จริม ให้เข้ามาดูแลและประสานงานกับพื้นที่ที่มีการแจ้งหายไว้ เพื่อจะได้ให้ญาติเข้ามาประสานงานกับทางโรงพยาบาลเพื่อให้การดูแล เบื้องต้นทราบว่า บิดามารดาได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว แต่ก็มีมรดกและเงินประกันชีวิตที่นายดุ๊ก ต้องเป็นคนรับ แต่จากการประเมิณเบื้องต้นนายดุ๊ก ต้องมีการรักษาอาการทางจิตเวชเสียก่อน ซึ่งในส่วนนี้ และจะหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดน่าน ให้การดูแล และจะประสานกับทางญาติเพื่อจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อไป
@@@@@@@@@
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
Discussion about this post