
นครปฐม – วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 เวลา 18.14 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จมาทรงบำเพ็ญพระกุศลถวายผ้าพระกฐิน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเชิญไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์ ณ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมีผู้ว่าราช การจังหวัดนครปฐม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครปฐม รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ตลอดจนจิตอาสาพระราช ทาน และประชาชน เฝ้ารับเสด็จฯ
โอกาสนี้ เสด็จขึ้นพระวิหารพระ ร่วงโรจนฤทธิ์ ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัส การท้ายที่นั่งบูชาพระร่วงโรจนฤทธิ์ และพระพุทธรูปปางประสูติ จากนั้น ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระสรีรางคาร พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี แล้วทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระป่าเลไลยก์
ต่อมาเสด็จขึ้นยังพระวิหารหลวงทิศตะวันออก ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชา พระพุทธมหาวชิรมารวิชัย และพระพุทธรูปประจำพระวิหารหลวงทิศตะวันออก แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ทรงโปรยดอกไม้บนพระแท่นปฐมเทศ นา ทรงพระสุหร่าย โอกาสนี้ พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ทรงเจิมระฆัง 3 ใบ ประทานแก่เจ้าพนักงานเชิญไปประดับบนพระปฐมเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
จากนั้นเสด็จไปยังพระอุโบสถ ทรงบำเพ็ญพระกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร สังกัดมหานิกาย สันนิษฐานว่าเดิมได้มีการก่อสร้างเป็นพระสถูป มีรูปทรงแบบบาตรคว่ำ เช่นเดียวกับพระสถูปสาญจี ที่ประเทศอินเดีย เพื่อเป็นปูชนียสถานในการประกาศพุทธศาสนาครั้งแรกในดินแดนสุวรรณภูมิ ราวพุทธศตวรรษที่ 3 สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ภายหลังได้มีการปฏิสังขรณ์ เพิ่มเติมให้มียอดเป็นแบบพระปรางค์ จากเจ้านายบางพระองค์ในสมัยโบราณ และออกนามว่า “พระธมเจดีย์” ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช เมื่อครั้งทรงพระผนวช ทรงออกธุดงค์จาริกไปทรงนมัส การ พร้อมกับมีพระบรมราชวินิจฉัยถึงความเก่าแก่และความเป็นมาที่น่าสนใจ หลังเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ในปี 2396 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ก่อสร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่ เป็นทรงระฆังคว่ำ ครอบพระเจดีย์องค์เดิม มีความสูง 120 เมตร พร้อมกับสร้างวิหารคด และระเบียงโดยรอบ แล้วพระราชทานนามว่า “พระปฐมเจดีย์” แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ ก็เสด็จสวรรคต
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุล จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปฏิสังขรณ์องค์พระปฐมเจดีย์ สร้างหอระฆังและประดับกระเบื้องจนแล้วเสร็จ ซึ่งในรัชกาลต่อมาทรงมีพระบรมราชูปถัมภ์ ในการบูรณปฏิสังขรณ์จนมีความสมบูรณ์งดงามทั้งพระอาราม โดยกำหนดให้วันขึ้น 12 ค่ำ ถึงแรม 5 ค่ำ เดือน 12 เป็นงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ปัจจุ บัน มีพระพรหมเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม) ที่ปรึกษาเจ้าคณะ 15 เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์จำพรรษา 153 รูป.
Discussion about this post