วันที่ 21พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยามรุ่งสางในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ จะพบ เห็นเรือประมงพื้นบ้าน เรือหัวโทง ต่างพาเรือวิ่งเข้าฝั่งเลียบหัวแหลมเต๊ะปัน ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล ซึ่งบนเรือจะมีกองอวนล้อม และเห็นปลาจำนวนมากนับร้อยๆตัว นั่นคือปลาหลังเขียว ที่ชาวประมงพื้นบ้านได้ทยอยจัดการนำขึ้นฝั่งทันที และจะเห็นได้ว่า เริอประมงพื้นบ้าน จอดเรียงรายยาว บางวันนับได้ถึง 50 ลำหลังจากออกเรือไปกลางทะเล ใช้อวนล้อมจับปลาหลังเขียวที่ขึ้นเหนือน้ำทะเลมาเป็นฝูงใหญ่
ด้านนายสันต์ ตรุรักษ์ อายุ 66 ปี อาชีพประมงพื้นบ้านเรือหัวโทง เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูปลาหลังเขียวขึ้นมาเป็นฝูงเหนือน้ำทะเลจึงทำให้ชาวประมงในพื้นที่นี้ต่างออกวิ่งเรือกันไปก่อนพระอาทิตย์สาง และวิ่งเข้าฝั่งพร้อมปลาหลังเขียวจำนวนมาก ที่ติดอ้วนล้อมมา และที่สำคัญแม้ราคาขายจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 15 บาท ตนเองและเพื่อนชาวประมงพื้นบ้านด้วยกันจับกันได้ ถึง 800 กิโลกรัม จนไปถึง1,000 กว่ากิโล กรัม นำไปส่งขายให้เถ้าแก่รับซื้อปลาหลังเขียว มีรายได้ดีตกถึง 10,000 ถึง 15,000 บาท จากการขายปลาหลังเขียว แถมบางลำ หาเสร็จก็วิ่งออกไปจับอีก บางลำ ไปหา 1-2 ครั้งต่อวัน
ส่วนใหญ่ที่เถ้าแก่หรือพ่อค้าคน กลางจะซื้อไป นอกจากส่งขายต่อไปยังภาคอื่นๆแล้ว ก็สามารถไปทำเมนู ปลาตากแห้ง ทำปลาหวาน และปลาเค็ม ทั้งขายเป็นสินค้าอาหารทะเล ขายตามออนไลน์ ก็ยังเมนูที่อร่อยหากใครได้ลิ้มลอง
นางวริศฎา ปิ่นสา อายุ 38 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน กล่าวด้วยว่า วิธีการเอาปลาออกจากอวนล้อม โดยเราจะเอาเรือจอดเทียบชายหาด แนวยาวขวางชายหาด จากนั้น ใช้อวนตาถี่ทำพื้นแช่ลงไปในทะเลริมชายหาด จากนั้นชาวประมงเจ้าของเรือแต่ละลำดึงอวนล้อมที่ได้ไปล้อมจับปลาหลังเขียวในกลางทะเลที่ติดกลับมา ดึงลงใช้แรงสะบัดเขย่าๆๆๆหลายๆครั้ง ปลาหลังเขียวจะหลุดร่วงลงได้ง่าย และรวดเร็ว หากใครต้องการมาดูมาชมบรรยากาศ วิถีชาวประ มงพื้นบ้านมาดูได้ทุกๆเช้า ถือว่าปีหนึ่งในห้วงนี้จะพบปีละ 1 ครั้ง สามารถมาชมดูวิถีชาวประมงพื้นบ้าน และมาหาซื้อกันไปกินได้ถึงริมชายฝั่งตรงนี้ได้ ในทุกๆเช้ายาวไปตลอดสิ้นเดือนนี้.
Discussion about this post