ดราม่าที่พักสะปันชี้หน้าด่านักท่องเที่ยว หิ้วหมูกระทะนอกเข้ามากิน อ้างเสียเปรียบ ใช้แก๊สและเตาของรีสอร์ท

กลายเป็นประเด็นดราม่าหลายวัน สำหรับที่พัก รีสอร์ท บนสะปัน – บ่อเกลือ แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต วิวหลักล้าน ของจังหวัดน่าน ซึ่งเคยถูกนักท่องเที่ยวรีวิวเต้นท์ขึ้นรา และกาแฟแก้วละ 400 มาแล้ว ล่าสุด นักท่องเที่ยวได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ค เล่าประสบการณ์การเข้าพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง แต่โดนผู้ดูแลรีสอร์ทชี้หน้าด่า ด้วยเหตุหิ้วหมูกระทะจากข้างนอกเข้ามากิน ทั้งที่ได้ติดต่อขออนุญาตกับทางแอดมินเพจรีสอร์ทแล้ว
โดยข้อความระบุว่า “สวัสดีครับ วันนี้ผมจะขอรีวิวเหตุการณ์ที่พึ่งเจอกับตัวเองเมื่อ 20.00 วันที่ 16/12/65 ที่สะปันแห่งหนึ่ง เนื่องจากเราเป็นคน จ.น่าน ที่มีเพื่อนๆมาเที่ยวน่านครั้งแรก เราเลยเป็นคนพามาเที่ยวเพราะบ้านเราสวยมาก บรรยากาศดี เพื่อนได้จองที่พักไว้ 2 หลัง หลังละ 1500 และ 1200 บาท ก่อนเข้าพักทางที่พักได้แจ้งกฏชัดเจนว่าห้ามนำอาหารจากข้างนอกมาทาน เราก็ได้สั่งอาหารก่อน 17.00 ตามกฎทางที่พัก เราสั่งหมูกะทะชุดละ 499 สำหรับ 2 ท่าน และเพิ่มขุดเสริมอีก 1 ชุดกลัวไม่อิ่ม พอถึงเวลาที่พักก็เอามาส่งตามปกติเรากินไปซักพัก พวกเราเริ่มคุยกันว่ามันไม่พอ เลยขออนุญาตแอดมินว่าสั่งเพิ่มได้มั่ย ทางแอดมินตอนแรกไม่ยอมเราก็เลยถามตามตรงๆว่า เรามาไกลมากไม่อิ่มแล้วไม่อนุญาตให้ซื้อข้างนอกมากินแล้วเราหิวจะให้ไปหาซื้อที่ไหน (ขับรถมาไกลมากเราอยากนั่งกินแบบชิวๆเก็บบรรยากาศพักผ่อนก้อนไปทำงานต่อ) พอแอดมินอนุญาติเราก็สั่งหมูกะทะมาเพิ่ม 1 ชุดจากข้างนอก ที่นี้พอผู้ดูแลมาเจอมาชี้หน้าว่าพวกเราว่าที่พักห้ามสั่งอาหารเข้ามา คุณสั่งอาหารเข้ามาแบบนี้ผมเสียเปรียบมั้ย เพราะคุณมาใช้แก๊สกระป๋องของที่พัก เตาของที่พัก เราก็พยายามชี้แจงว่าเราได้ขออนุญาตและทักบอกแอดมินแล้ว ผู้ดูแลบอกว่าตอนนั้นที่แอดมินโทรมาผมไม่ได้รับสาย ไม่รู้ว่าจะสั่งหมูกะทะมา เราก็ชี้แจงว่าเรามาครั้งแรก คุณควรจะกลับไปคุยกับแอดมินคุณก่อนมั๊ยก่อนที่จะมาต่อว่าลูกค้าว่า เราได้ขออนุญาตก่อนสั่งเข้ามาแล้ว แต่เค้าก็ไม่เข้าใจ ตอนนั้นกลัวมากๆๆ เราเลยแจ้งให้ตำรวจมาเคลียร์ และพวกเรา 3 คนต้องออกจากที่พักมาตอน 21.50 เพื่อมาหาที่นอนใหม่ เพราะเรื่องหมูกะทะ และยอมเสียค่าที่พัก พวกเราขอแค่ความเห็นใจคือมันมืดมากแล้วไม่ให้เราสั่งอาหารเข้ามาทาน ที่พักก็ควรจะซัพพอร์ตให้สมกับราคาที่ลูกค้าจ่าย นั่งเครื่องบินมาตั้งไกล ขับรถมา 10 ชั่วโมง เพื่อให้เรามาอดข้าวเพื่อรอพรุ่งนี้เช้า #เสียความรู้สึกมาก # การบริการแย่ห่วยแตกสุดๆ # ถ้าที่พักมาเห็นควรจะอบรมพนักงานดูแลให้บริการดีกว่านี้ ถ้ารับฟังข้อตำหนิของลูกค้าไม่ได้ไม่สมควรมาทำงานบริการ เพราะเราก็ค้าขายไม่เคยทำกับลูกค้าแบบนี้เลย #ขอบคุณตำรวจสภบ่อเกลือที่มาไกล่เกลี่ยให้นะครับ”
ทั้งนี้หลังโพสต์ออกไป หลายคนได้เข้ามาวิจารณ์ การกระทำของทางรีสอร์ท ที่ดูไร้น้ำใจ ทั้งที่นักท่องเที่ยวก็ได้ซื้อของกินจากทางรีสอร์ทแล้ว แต่ที่ต้องซื้อจากข้างนอกเพราไม่พอกิน ไม่อิ่ม อีกทั้งยังบ่นว่าทำให้เสียชื่อจังหวัดน่านหมดเลย เพราะโดยปกติถ้าเป็นคนน่านจริงๆเขาจะมีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ใจดี แต่ดูแล้วเจ้าของรีสอร์ทคงเป็นคนที่อื่นมาทำมาหากินที่นั่นแน่ๆ และอีกหลายคนก็บอกว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆ น่าจะอลุ่มอล่วยกันบ้างครับ คนไทยเหมือนกัน และอยากให้มีการจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวสะปัน-บ่อเกลือ อย่างการซื้อขายที่ดินกัน การตรวจสอบพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ รุกพื้นที่ป่าชุมชนหรือป่าว ทั้งใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม ที่สำคัญเรื่องราคาที่พัก อาหาร ที่ปัจจุบันแค่ข้าวกะเพราก็จานละ 120 ไปแล้ว และหลายร้านไม่ติดราคาอาหารแจ้งไว้ให้ชัดเจนอีกด้วย

โดยผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนักท่องเที่ยว คุณกวาง เล่าว่า ก่อนเข้าพักรู้กฎระเบียบว่าห้ามนำอาหารเข้ามากินอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้สั่งหมูกระทะ 2 ชุด เครื่องดื่ม และขนม กับทางรีสอร์ท แต่พอทานแล้วไม่อิ่ม และด้วยเห็นว่าพึ่งจะช่วงเย็น 17.00 น.กว่าๆ จึงติดต่อขอสั่งเพิ่มแต่ทางรีสอร์ทไม่มี จึงขออนุญาตลงไปซื้อ ซึ่งทางแอดมินก็อนุญาติ และด้วยกินหมูกระทะค้างไว้ เห็นว่าร้านค้าในหมู่บ้านมีขายจึงซื้อขึ้นมากินอีก แต่ปรากฏว่ากลับถูกคนดูแลรีสอร์ท เดินมาชี้หน้าด่า เสียงดัง และใส่อารมณ์มาก โดยพยามเจรจาชดใช้ค่าแก๊ส ค่าเตาให้แก่เค้า แต่ก็ไม่ยินยอม และยังคงด่าทอต่อว่า จนรู้สึกกลัว จึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจให้เคลียร์ ซึ่งก็ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจพากันย้ายออกจากที่พักนั้น ทิ้งเงินค่าห้องรวม 2700 บาท แล้วลงไปหาห้องพักใหม่ในหมู่บ้านแทนเพื่อความปลอดภัยและสบายใจ
คุณกวาง เล่าต่อว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมทางรีสอร์ท ต้องชี้หน้าต่อว่ารุนแรงขนาดนั้น เพราะถามชดใช้ให้ก็ไม่เอา ทั้งนี้ที่โพสต์เพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์ทั้งฝั่งผู้ประกอบการรีสอร์ท ที่มีกฎระเบียบเช่นนี้ ควรมีบริการไว้รองรับลูกค้า เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวอยู่ไกล และหาของกินยาก หรือก็อลุ่มอล่วยให้ซื้อจากข้างนอกได้ เพราะอย่างไรก็เป็นสินค้าจากในหมู่บ้าน จากชุมชนแหล่งท่องเที่ยวเดียวกัน และในฝั่งของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาควรศึกษาสถานที่ท่องเที่ยว สอบถามเรื่องสถานที่พัก อาหารที่สั่งให้ดีว่ามากน้อยขนาดไหน เพื่อให้เพียงพอในการกิน เพราะที่สะปันเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ พอค่ำมาแล้วก็จะหาซื้ออะไรค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตามที่พัก รีสอร์ทบนสะปัน ไม่ได้เป็นแบบนี้ทั้งหมด เพราะเคยไปเที่ยวมาก่อนหน้านี้ ก็ทั้งที่พักดี บริการก็ดี อาหารก็มีไว้บริการเพียงพอ
โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มแจ้งว่า ระหว่างเดินทางกลับออกจากบ่อเกลือได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อเกลือ โทรศัพท์มา แจ้งว่า ผู้ดูที่พักดังกล่าวได้เข้ามาแจ้งความเอาผิดที่โพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงในโลกโซเชี่ยล ให้เข้ามาเจรจาที่โรงพัก ตนอยากให้สังคมตัดสินว่าผิดไหมที่ไปเจอเรื่องดังกล่าว
โดยที่พักดังกล่าว มีห้องพักทั้งหมด 14 ห้อง ตั้งอยู่บนที่ลาดชันเชิงเขาวิวหลักล้าน เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ โดยที่พักที่เกิน 5 ห้อง มีผู้เข้าพักเกิน 20 คน ต้องจดทะเบียนขออนุญาตประกอบกิจการโรงแรม รวมทั้งที่ดินที่ตั้งสุ่มเสี่ยงอยู่ในเขตป่าสงวนป่าภูคา – ป่าผาแดง เพราะอยู่ห่างจากรีสอร์ตหรูวิวหลักล้านที่มีการตรวจยึดกันไปเมื่อต้นเดือน
@@@@@@@@@

ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น