จากกรณีที่ นายดำรง พิเดช สส. บัญชีรายชื่อ พรรคโอกาสไทย อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ออกมาเปิดเผย เกี่ยวกับส่วยบนเกาะเสม็ด หลังจากไปตรวจสอบ พบว่า มีการเรียกเก็บเงินรายปีจากรถยนต์เช่า จำนวน 16,000 บ.ต่อคันต่อปี รถ จยย.คันละ 1,600 บาทต่อคันต่อปี พร้อมสติ๊กเกอร์ 1 แผ่น ใครไม่จ่ายวิ่งไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการเรือโดยสารโอด ถูกขึ้นค่าธรรมเนียมเรือรายปี ถึง 3 เท่าตัวทั้งที่เพิ่งฟื้นจากสถาน การณ์โควิดมา 3 ปี
นอกจากนี้ ยังมีการเก็บเงินแลกกับอนุญาตก่อสร้าง เก็บ 10 เปอร์เซ็น จากงบประมาณการก่อสร้าง โดยผู้ประกอบการรายหนึ่งเปิดเผยว่า ถูกเรียกเก็บการต่อเติมรีสอร์ท กว้าง 11 ม. ลึก 16 ม.ต้องจ่าย 500,000 บาท เพื่อแลกกับการอนุญาตให้สร้าง และ ยังถูกหลอกให้ออกรถยนต์มา 2 คัน เพื่อให้วิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวในรีสอร์ต โดยต้องจ่ายคันละ 1 แสนบาท พอจ่ายแล้วปรากฏว่าวิ่งได้เดือนเดียวถูกห้ามวิ่ง เงินจำนวน 2 แสนบาทก็ไม่ได้คืน เสียเงินออกรถอีกกว่าล้านบาท ต่อมานายธานี สุขกระจ่าง ประธานชมรมแท็กซี่เกาะเสม็ด(รถยนต์เช่า) ได้ออกมาเปิดเผยว่า เกี่ยวกับเงินจำนวน 16,000 บาท ที่ทางอุทยานฯเรียกเก็บเงินเป็นค่าดำเนินการ เพื่อทำให้รถยนต์โดยสารถูกต้อง จะได้วิ่งได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเก็บเงินมาแล้ว 60 ราย รวม 960,000 บาท ตนเองได้เก็บเงินทั้งหมดส่งให้อุทยานฯไปหมดแล้ว เช่นเดียวกับ รถจยย.เช่า ที่ถูกเรียกเก็บคันละ 1,600 บาท จำนวน 660 คัน รวมเป็น 1,056,000 บาท ได้ส่งไปให้อุทยานฯ แล้วเช่นกัน
นายสมศักดิ์ ภูเพ็ชร์ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้ตั้งคณะกรรม การสอบข้อเท็จจริงแล้ว ให้มีผลสรุปออกมาให้เร็วที่สุด โดยเวลานี้ กรมอุทยานฯ พยายามตรวจสอบทุกอย่างให้รอบด้าน ยอมรับว่า บางเรื่องพบความผิดพลาด แต่ก็ต้องตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน และ ให้ความจริงปรากฎ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 18 ม.ค. นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่2 นายสาธิต ปิ่นกุล ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่2 และ นายชาณุ เดชธัญญนนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ได้เปิดโต๊ะชี้แจงแถลงข้อเท็จจริง กรณีที่ีมีการนำเสนอข่าว เกี่ยวกับการพาดพิงว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งได้สร้างความเสียหายและเข้าใจผิดต่อหน่วยงาน โดยแบ่งเป็นประเด็นดังนี้
นายก้องเกียรติ ได้ กล่าวว่า กรณี ที่มีการประกาศเพิ่มอัตราค่าธรรม เนียมเรือโดยสาร เข้าออกพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งเป็นความจริง โดยเป็นการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 8 ส.ค.65 โดยทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังได้รับหนังสือจากสมาคมผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวบ้านเพเกาะเสม็ด ได้มีส่งเรื่องไปยังกระทรวงเพื่อพิจาร ณาแล้ว
ส่วนประเด็นที่2 เรื่อง เรียกเก็บเงินจากรถโดยสารบนเกาะเสม็ด เป็นไปตามกฎกระทรวงที่กำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาต กำหนดเก็บค่าธรรมเนียม คันละ 2,000 บาทต่อปี ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า ทางอุทยานฯเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ จากรถยนต์เช่า คันละ 16,000 บาท และ รถจยย.คันละ 660 บาท สำหรับเรื่องดังกล่าว ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว
ประเด็นที่3 เรื่องการเรียกเก็บค่าผ่านเข้าอุทยานฯ จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มอีกคนละ 100 บาท นอกเหนือจากค่าผ่านเข้าเกาะเสม็ด 200 บาท ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่กำหนดค่าบริการเป็นพิเศษ จึงไม่ใช่การเรียกเก็บเพื่อหาผลประโยชน์แต่อย่างใด
ประเด็นที่4 เรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ จากการก่อสร้างต่อเติมในพื้นที่อุทยานฯ โดยมึการเปิดเผยว่า มีการเรียกเก็บ จำนวน 10 เปอร์เซ็น จากงบประมาณการก่อสร้าง ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เพราะการก่อสร้างต้องมึการยื่นแบบแปลนต่อกรมอุทยานฯ เพื่อตรวจสอบ ให้อยู่ในแบบแปลนที่กำหนดและในพื้นที่ที่ถูกกฎหมาย หากถูกต้องตามกำหนดก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว
ประเด็น 5 เกี่ยวกับเรื่อง การจับกุมผู้ที่เข้าไปกวาดคราดหญ้าริมถนนซึ่งเป็นพื้นที่อุทยานฯ ที่กล่าวอ้างว่าถูกเรียกเก็บเงินเพื่อแลกกับการไม่จับกุม ซึ่งขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
นายก้องเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า เกี่ยวกับเรื่องที่ถูกพาดพิง กรณีที่ถูกกล่าวหา หรือข้อมูลร้องเรียนอื่นๆที่มีรายละเอียดปรากฎตามสื่อต่างๆ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่2 (ศรีราชา) และ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกัน เพื่อทำความจริงให้ปรากฎ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และ จะเร่งดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทางผู้ประกอบการขอให้มั่นใจ และ รับรองว่าจะไม่มีการกลั่นแกล้งกันอย่างแน่นอน สำหรับกลุ่มที่มีการร้องเรียน
ด้านผู้ประกอบการ ต้องการให้มีบุคคลจากนอกหน่วยงานเข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมการตรวจสอบด้วย เพราะหากเป็นสีเดียวกันตรวจสอบกันเอง แล้ว จะเกิดความเป็นธรรมได้อย่างไร.
Discussion about this post