
วันที่ 21 ม.ค.66 เวลา 16.00 น.ที่ สภ.ปลายบาง ต.ปลายบาง อ.บาง กรวย จ.นนทบุรี พ.ต.ท.นิรุทธ์ ช่อผกา รอง ผกก.(สอบสวน).สภ. ปลายบาง เรียก นางมล แม่เด็กวัย 10 ขวบและ น.ส.แอน เข้าสอบปากคำด่วน หากหลักฐานครบถ้วนเตรียมพร้อมออกหมายจับ นายโจ้ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาข่มขื่น ด.ญ.บี(นามสมมุติ) ทันที หวั่นผู้ต้องหาไหวตัวทันแล้วหลบหนี โดยใช้เวลาสอบปากตั้งแต่ช่วง 14.00 น.ถึง17.00 น. ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ พร้อมทั้งนำตัว ด.ญ.บี ไปชี้จุดเกิดเหตุ หลังจากนี้จะขอศาลอนุมัติหมายจับกุมตัวผู้ต้องหา
น.ส.แอน กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตร.เรียกสอบปากคำในวันนี้ก็สอบทั้งตนเองและแม่เด็ก ส่วนตัวน้อง จะต้องรอทางสหวิชาชีพก่อน ตอนนี้รู้สึกดีใจที่เขาให้ความสำคัญกับคดีนี้ถึงแม้ว่าน้องจะเป็นเด็กต่างด้าวก็ตาม ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่รู้จะไปพึ่งใครมันมืดมนไปหมด เพราะตนก็เป็นเพียงประชา ชนคนนึง ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมาย จนมาเจอพี่นักข่าวก็ต้องขอบคุณมากๆ ที่ช่วยน้อง ในเรื่องคดีความตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนร้อยเวรให้คนใหม่มาทำคดีแทนซึ่งดีมากๆ เขาดำเนินการเร็วมาก แต่ตอนนี้จะติดปัญหาตรงที่ เจ้าหน้าที่ตร.เขาต้องการกล้องวงจรปิดที่ระบุวันที่และเวลาที่ผู้ต้องหามารับส่งน้อง ซึ่งมันนานมากแล้วไม่รู้ว่าจะมีรึเปล่า แต่ทางเจ้าหน้าที่ตร.ก็จะจัดการในเรื่องของการหาภาพจากกล้องให้เอง ตอนนี้รู้สึกดีใจแทนตัวน้องและแม่น้องที่ทุกคนให้ความสำคัญกับเด็กตัวเล็กๆคนนึง ที่สำคัญน้องเขาไม่ใช่คนไทยด้วย และรู้สึกปลอดภัยขึ้นมากเพราะเมื่อวานตอนเย็นยังเห็นลุงเขาเดินอยู่ที่วินอยู่เลย หลังจากนี้ก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตร.ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีการยอมความใดๆ

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วินมอเตอร์ไซด์ที่นายโจ้ ประจำอยู่ ได้สอบถามกับ นายต่อ อายุ 37 ปี ซึ่งขี่รถจยย.รับจ้างอยู่ที่วินเดียวกับนายโจ้ มานานกว่า7ปี โดยนายต่อเล่าว่า ตนเพิ่งจะมาทราบข่าวเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมานี้เองว่านายโจ้ ไปทำแบบนี้กับเด็กวัย10 ขวบ ซึ่งเป็นอะไรที่ตนยอมรับไม่ได้เพราะตนก็มีลูกสาวเหมือนกัน ปกตินายโจ้ เป็นคนที่ทุกคนรู้จักและเรียกใช้แกบ่อยๆ ไม่เคยมีนิสัยตามที่เป็นข่าวเลย แล้วเด็กคนนี้ปกติก็ชอบวิ่งมาหานายโจ้ ที่วินเป็นประจำมาขอขนมบ้าง ขอเงินบ้าง ซึ่งยายโจ้ ก็ให้ประจำตอนนั้นที่เด็กมายังไม่มีทีท่าหวาดกลัวอะไรเลย แต่ช่วงหลังๆมานี้ไม่เห็นน้องมาวิ่งเล่นที่วินเลย ทั้งตัวแม่น้อง และน้อง ทุกคนที่วินรู้จักหมดเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้แล้วตัวนายโจ้ อยู่กับเมียอยู่แล้ว ที่ผ่านมาไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟังเลย เข้ามาที่วินก็จะมานั่งเงียบๆเล่นโทรศัพท์ แล้วตอนนี้พอมีข่าวเรื่องนายโจ้ ออกไปชาวบ้านที่เขาเรียกใช้วินนี้อยู่เขาก็รู้สึกกลัว รู้สึกไม่ปลอดภัย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายโจ้ พบว่าเจ้าตัวยังอยู่ที่บ้านไม่ได้หนีไปไหน โดยนายโจ้ เล่าว่า จริงๆแล้ววันนั้นเท่าที่จำได้คือตนได้กลับมาส่งหลานชายที่บ้านก่อนจากนั้นด.ญ.บี ก็ได้บอกให้ตนพาไปซื้อขนมที่โลตัสหน่อย แต่ตนบอกว่าถ้าอย่างนั้นจะช้าไม่ได้นะเพราะแม่รออยู่ที่บ้าน พอพาไปซื้อขนมเสร็จตนก็ได้พาด.ญ.บีไปหาดอกอัญชัญเพื่อนำไปส่งให้อาจารย์ที่โรงเรียนใช้ไปทำขนมม แต่งานนี้เป็นงานของหลานชาย ไม่ใช่งานของ ด.ญ.บี สุดท้ายเรื่องก็มาเป็นว่า ด.ญ.บีไปฟ้องแม่ว่า ตนให้เอามือด.ญ.บีไปจับกระจู๋ เอานิ้วแหย่ มีให้อมกระจู๋ อะไรแบบนี้ แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างที่น้องพูด อันนี้ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำน้องจริง และจะไปสู้กันที่ศาล ถึงแพ้ตนก็ยอมแต่ตนจะไม่ยอมเป็นตราบาป และที่น้องบอกว่าโดนทำหลายครั้งนั้นตนขอปฏิเสธ ตนพาไปแค่ 2 ครั้งเท่านั้น และพาไปเก็บดอกอัญชันอย่างเดียวไม่ได้ทำอะไรเลย ตอนนี้ตนก็เหมือนแพะอยู่แล้วเพราะข่าวออกไปทั่วประเทศแล้ว และตนก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตำรวจกำลังจะออกหมายจับตน เพราะก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ตร.สภ.ปลายบางโทรมาบอกให้ตนเข้าไปให้ปากคำที่โรงพักในวันพุธนี้ ก็เลยงงว่าตดลงแล้วยังไงกันแน่ แต่ตอนนี้ยอมรับว่าเครียดมากวันนี้ก็คิดว่าจะกินยาฆ่าตัวตาย เตรียมเอาน้ำยาล้างห้องน้ำมาผสมกับเหล้าแล้วจะกินให้ตายไปเลยจะได้จบๆ แต่คนที่บ้านมาเห็นก่อนจึงช่วยห้ามและนำไปเททิ้งหมด.
Discussion about this post