ชาวบ้านทุ่งประดู่ อ.ทับสะแก
ยังผวา !! เตรียมพร้อมรับคลื่นแรงซัดฝั่งอีกระลอก

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.66 นายอนันต์ วงษ์ปิ่น อายุ 69 ปี ชาวบ้านในพื้น ที่บ้านทุ่งประดู่ หมู่ที่ 2 ตำบลทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบ คีรีขันธ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา คลื่นลมในทะเลแรงมาก ขนาดคลื่นสูงประมาณ 4 เมตร ซัดเข้าหาฝั่งตลอดทั้งวันและกัดเซาะชายฝั่งเป็นทางยาวประมาณ 500 เมตร โดยบริเวณแนวชายฝั่งส่วนหนึ่งของหมู่ 2 บ้านทุ่งประดู่ ถูกคลื่นทะเลซัดหายลึกเข้ามาถึงพื้นดินบนฝั่งเกือบ 30 เมตร ทำให้บ้านเรือนและลานตากปลาของชาวประมงที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย รวมถึงแนวป่าสนริมชายทะเลถูกคลื่นซัดล้มระเนระนาดหลายต้นลงไปในทะเล ตนเองเช่าที่ดินตรงนี้อยู่อาศัยและทำกินมานาน 30 ปี ไม่เคยเห็นคลื่นแรงเท่านี้มาก่อน ถือว่าหนักมากกว่าตอนคราวพายุปาบึกเสียอีก โชคดีที่เหตุเกิดในช่วงเช้าพอตกเย็นคลื่นลมก็ค่อยๆเบาลง แต่ตอนนี้คนในครอบครัวยังรู้สึกผวาโดยเฉพาะในตอนกลางคืนนอนหลับไม่สนิทเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำ ทั้งนี้ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ได้เข้ามาช่วยเหลือนำสิ่งของอุปโภคบริ โภคมามอบให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

“ขณะที่ อบต.ทับสะแก ได้นำรถแบ็คโฮและเจ้าหน้าที่มาช่วยกันทำแนวกันคลื่นชั่วคราวตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยใช้ถุงบิ๊กแบ็กขนาดใหญ่วางเรียงซ้อนกัน 2 ชั้นและเสริมด้วยเสาเข็มไม้สนให้สามารถต้านทานกระแสคลื่นได้ เพราะคาดการณ์ว่าวันที่ 29-30 ม.ค.นี้ อาจจะมีคลื่นลมแรงในทะเลอ่าวไทยอีกระลอก จึงต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ส่วนชาวประมงเรือเล็กพากันนำเรือขึ้นมาจอดบนฝั่งแล้วเพื่อป้องกันความเสียหาย พร้อมกันนี้ทางคณะผู้บริหารและครูโรงเรียนอรุณวิทยา อ.ทับสะแก ได้นำเงินจำนวนหนึ่งมามอบช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวนักเรียนที่ประสบภัย ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวอยากให้หน่วยงานภาครัฐพิจารณาสร้างแนวหินกันคลื่นระยะทางประมาณ 800- 900 เมตร ทางด้านทิศใต้ของบ้านทุ่งประดู่ หลังจากดำเนินการเสร็จไปแล้วทางด้านทิศเหนือเพื่อบรร เทาผลกระทบในช่วงที่มีคลื่นลมแรง” นายอนันต์ กล่าว.