วัยรุ่น 2 กลุ่ม ยกพวกล้างแค้น ปาระเบิดปิงปองสนั่นถนน มีดไม้ครบตะลุมบอน บาดเจ็บ 3 ราย รวบตัวได้ 1 เตรียมล่าที่เหลือ !!

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 1 ม.ค. 66 ร.ต.อ.ไมตรี พากุล รองสว.(สอบ สวน) สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุ กลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม จำนวนหลายสิบคน ยกพวกตีกัน เสียงระเบิดดังสนั่น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณสะพานคลองห้วยใหญ่ ถ.กรอกยายชา-ตลาดลาว ต.มาบ ตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง จึงประ สานแพทย์เวร รพ.เฉลิมพระเกียรติฯมาบตาพุด หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินทางไประงับเหตุทันที

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคนกำลังขี่จยย.หลบหนีไป ตรวจสอบพบรถจยย.พังเสียหายล้มคว่ำอยู่บนถนน จำนวน 3 คัน และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วยผู้หญิง1ราย ผู้ชาย 2 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดจากประทัดยักษ์ และ ระเบิดปิงปอง ก่อนจะนำตัว ส่ง รพ.เฉลิมพระเกียรติฯ 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย นำตัวส่ง รพ. ระยอง เพราะเป็นคนละกลุ่มกันจึงแยกโรงพยาบาลเกรงจะเกิดเหตุขึ้นในโรงพยาบาล ซึ่งทั้ง3ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัวไว้ เพื่อทำการสอบสวนหลังหายจากบาดเจ็บ

จากการตรวจสอบในบริเวณที่เกิดเหตุ พบ ประทัดยักษ์ แบะ ระเบิดปิงปอง ที่ทำขึ้นเอง ตกอยู่จำนวน 3 ลูก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมถึงเศษขวดที่แตกกระจายเกลื่อน ท่อนไม้ และ เศษระเบิดที่แตกกระ จายบนพื้นถนน

จากการสอบหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ เป็นผู้ชาย อายุ 18 ปี หลังถูกควบคุมตัว ได้ให้การว่า ตนเองมากับพวก ซึ่งเป็นวัยรุ่นที่อยู่ในพื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง ได้ยกพวกมาจำนวนกว่า 30 คน มารอล้างแค้นกลุ่มวัยรุ่นตากวนในพื้นที่ ต.มาบตาพุด พอมาเจอกันตรงจุดเกิดเหตุ จึงมีการปาระเบิดปิงปอง และ ประทัดยักษ์ นับสิบลูก จนทำให้อีกฝ่ายที่ขี่รถจยย.มา ถึงกับล้มเกลื่อนบนถนน หลังจากนั้นก็มีการตะลุมบอนกัน ทำลายรถจยย. จนพังเสียหาย จนกระทั่งมีคนตะโกนว่าตำรวจมา จึงพากันขี่จยย.หลบหนี และ บางรายก็วิ่งหนีไป

ด้านชาวบ้านที่อาศัยในจุดเกิดเหตุ ต่างก็สุดทนกับกลุ่มวัยรุ่น ที่มักจะมีการขี่จยย.กันเป็นกลุ่มกลางดึก ส่งเสียงดังลั่นถนน และ มีเหตุทะเลาะวิวาทเป็นประจำ ครั้งนี้นับว่าโชคดีที่ปิดบ้านปิดร้านกันหมด ไม่งั้นอาจจะถูกลูกหลง จึงต้อง การให้ตำรวจตรวจตราเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดรถจยย.ที่ถูกทิ้งในที่เกิดเหตุ และ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ เพื่อจับกุมตัวผู้เกี่ยวข้องทุกรายมาสอบสวนและดำเนินคดี และ อายัดตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อทำการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.