
ประจวบคีรีขันธ์ – เมื่อวันที่ 15 ก.พ.66 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน พื้นที่ทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2566 หรือมาตร การปิดอ่าวไทย ที่บริเวณสวนสาธารณะปากน้ำปราณ อ.ปราณ บุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มี นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราช การในจังหวัด องค์กรชุมชนประ มงท้องถิ่น สมาคมประมง ร่วมพิธี เพื่ออนุรักษ์พ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำที่มีไข่แก่พร้อมสืบพันธุ์วางไข่ และอนุรักษ์สัตว์น้ำวัยอ่อนให้เจริญเติบโตเป็นสัตว์น้ำรุ่นใหม่ โดยกำหนดช่วงเวลาปิดอ่าวไทย ตั้ง แต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 15 พฤษ ภาคมนี้ ครอบคลุมเขตพื้นที่อ่าวไทยตอนกลาง – อ่าวไทยตอนใน (รูปตัว ก) ในเขตพื้นที่ จ.ประจวบ คีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี และระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน 2566 ในบริเวณอาณาเขตตามแผนที่แนบท้ายของประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางและเขตต่อเนื่องตั้งแต่ปลายแหลมเขาม่องไล่ ถึง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และบริเวณพื้นที่อ่าวไทยรูปตัว ก 2 ช่วงระยะเวลา ได้แก่ ระหว่างวันที่ 15 มิถุนา ยน – 15 สิงหาคม 66 ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในฝั่งตะวันตกของ จ.ประจวบฯ เพชรบุรี สมุทรสง คราม และสมุทรสาคร และระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน ในพื้นที่อ่าวไทยตอนในด้านเหนือของจังหวัดสมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี อนุญาตให้ทำการประมงเฉพาะเครื่องมือบางประเภทที่ประกาศให้ใช้ได้เท่านั้น
ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ได้ประกอบพิธีบวงสรวง พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และกล่าวคำปฏิญาณตน พร้อมกล่าวเปิดพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัด การทรัพยากรสัตว์น้ำ มีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ในพื้นที่ทะเลอ่าวไทย ประจำปี 2566 มอบแผ่นป้ายเงินอุดหนุนโครงการสร้างความเข้มแข็งกลุ่มการผลิตด้านประมงให้กับผู้แทนองค์กรประมงท้องถิ่นทั่วประเทศ จำนวน 200 ชุมชน โดยมอบให้กับผู้แทนสมาคมประ มงพื้นบ้าน และมอบป้ายเงินอุด หนุนให้แก่ประธานองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นในเขตจังหวัดชุม พร จำนวน 4 ชุมชน ได้แก่ สมาคมประมงด่านสวี หมู่ที่ 3 ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร ชุมชนประมงท้องถิ่นบ้านควนเสาธง หมู่ที่ 9 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร กลุ่มประมงพื้นบ้าน บ้านกลางอ่าว 1 หมู่ที่ 13 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุม พร กลุ่มประมงพื้นบ้าน บ้านกลางอ่าว 2 หมู่ที่ 14 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ประธานองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นในเขตประจวบฯ จำนวน 3 ชุมชน
ได้แก่ กลุ่มแปรรูปอาหารทะเลบ้านเขาแดง อ.กุยบุรี กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านปากคลอง ต.บาง สะพาน อ.บางสะพานน้อย และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนประมงและการท่องเที่ยวบางสะพาน ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน และประธานองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นจังหวัดเพชรบุรี จำนวน 3 ชุมชน ได้แก่กลุ่มประมงพัฒนาสาหร่ายทะเลเพชรบุรี ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยา กรธรรมชาติทางทะเล ต.บางขุนไทร อ.บ้านแหลม และกลุ่มเกษตร กรผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง ต.นาพันสาม อ.เมือง จ.เพชรบุรี และได้มอบพันธุ์สัตว์น้ำให้แก่ตัวแทนชุมชนประมงท้องถิ่นในพื้นที่ จ.ประจวบฯ จำนวนทั้งสิ้น 215,000 ตัว ประกอบด้วย กุ้งกุลาดำ 200,000 ตัว กุ้งแชบ๊วย 10,000 ตัว และปลากะพง 5,000 ตัว จากนั้น นายอลงกรณ์ ได้ร่วมปล่อยเรือตรวจประมงทะเลออกปฏิบัติงานในพื้น ที่ ประกอบด้วย เรือตรวจประมงทะเลขนาด 60 ฟุต เรือตรวจประ มงทะเล ขนาด 38 ฟุต เรือตรวจประมงทะเลขนาด 24 ฟุต เรือตรวจประมงทะเลขนาด 19 ฟุต และเรือยางตรวจประมงทะเล และเยี่ยมชมนิทรรศการจากหน่วยงานกรมประมงและหน่วยงานกระ ทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดประจวบฯ อาทิ นิทรรศการการจัดตู้แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่เพาะพันธ์เพื่อการอนุรักษ์พร้อมบอร์ดแสดงข้อมูล นิทรรศการผลการศึกษาทางวิชาการมาตรการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน บริเวณอ่าวไทยตอนกลาง อ่าวไทยรูปตัว ก นิทรรศการมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลางและมาตรการปิดอ่าวไทยตอนในในภาพรวม รวมไปถึงมาตรการที่เกี่ยวข้อง นิทรรศการการลงทะเบียนเพื่อขอรับใบอนุ ญาตประมงพื้นบ้านและเตรียมความพร้อมก่อนลงทะเบียนขอรับใบอนุญาตประมงพื้นบ้าน นิทรรศ การการควบคุมการทำประมงการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมชุมชนประมง การอนุรักษ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (MMPA) นิทรรศการการจัดทำหนังสือคนประจำเรือ (Sea book)
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า มาตรการปิดอ่าวไทยในปีที่ผ่านมา จากข้อมูลทางวิชาการ พบว่าทำให้พ่อแม่พันธุ์ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศและมีการแพร่กระจายของลูกปลาทูและสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดอื่นในพื้นที่ที่ประกาศใช้มาตรการอย่างชัดเจน ส่วนพื้นที่อ่าวไทยบริเวณบางส่วนของ จ.ประจวบฯ เมื่อเปรียบเทียบองค์ประกอบของลูกปลาทูและสัตว์น้ำชนิดอื่น พบว่า ระยะเวลาและพื้นที่บังคับใช้มาตรการ มีการปรับปรุงประกาศให้สอดคล้องกับสภาวะทรัพยากรและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลาทั้งนี้ ปริมาณการจับปลาทูในอ่าวไทยปีที่ผ่านมา (ปี 2565) จับได้ถึง 31,999 ตัน คิดเป็นมูลค่า 2,156.01 ล้านบาท มากกว่าผลการจับของปี 2564 ถึง 12,402 ตันคิดเป็นมูลค่า 780.63 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 63.28 ซึ่งถือเป็นสัญญาณอันดีที่แสดงถึงความเหมาะสมของการใช้มาตรการปิดอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในการติดตามประเมินผลทางวิชาการของมาตรการฯ พบว่าในห้วงเวลาก่อนการประกาศปิดอ่าวไทยตอนกลางในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 64 – 65) ในช่วงวันที่ 1 – 14 กุมภาพันธ์ พบพ่อแม่ปลาทูมีความสมบูรณ์เพศในอัตราที่สูงสุดถึงร้อยละ 100 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปลาทูมีความสมบูรณ์เพศก่อนช่วงมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลาง และพบความยาวเฉลี่ยของ พ่อ-แม่ ปลาทูอยู่ที่ 18.5 ซม.ซึ่งพร้อมสืบพันธุ์วางไข่ จึงมีข้อเสนอแนะทางวิชาการว่าเห็นควรปรับปรุงมาตรการปิดอ่าวไทยตอนกลางให้สอดคล้องกับสภาวะทรัพยากรและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นของชาวประมงในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และสุราษฎร์ธานีเห็นด้วย ทั้งนี้ สมา คมการประมงแห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอว่าควรปรับช่วงเวลาปิดอ่าวตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในปี พ.ศ. 2567.
Discussion about this post