
วันนี้ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.09 น. ณ ศาลาหมู่บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ภาคีเครือข่าย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ อาสาสมัครผลักดันช้างป่าสุรินทร์ ได้ประสานให้หมอช้างจาก บ.ตากลาง ต.กระโพ ที่มีประสบการณ์สูง จำนวน 8 ท่าน จาก บ้านตากลาง ตำบลกระโพ ที่มีประสบการณ์สูง นำโดยคุณตาชื่น แสนดี หมอช้างอวุโสอายุ 92 ปี ได้นำพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ พิธีเซ่นปะกำ เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นขวัญกำลังใจพี่น้องอาสาสมัครผลักดันช้างป่า รวมทั้งพี่น้องชาวบ้าน เกษตรกรที่อาศัยอยู่ตลอดแนวชายแดน ให้มีความสงบสุข ร่มเย็น ปลอดภัย และอยู่ร่วมกับช้างป่าอย่างเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ซึ่งปัจจุบันมีช้างป่าที่เข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณ ต.ตาเมียง, ต.บักได อ.พนมดงรัก, และต่อเนื่องไปยัง ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีจำนวน 4 ตัว ( ช้างป่าเรียกเป็นตัว ช้างบ้านเรียกเป็นเชือก )ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับป่าชายแดนไทย-กัมพู ชา และเป็นพื้นที่เชื่อมต่อแปลงเกษตรของชาวบ้าน ส่งผลกระทบความเสียหายต่อพืชไร่ รวมถึงขวัญกำลังใจของชาวบ้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เดชชาติ นิยมตรง หรือ ดร.บอมบ์ คนสุรินทร์เหลา นักวิชาการวางแผนภาคและเมือง กล่าวว่า การทำพิธีครั้งนี้ถือว่าเป็นภาพประวัติศาสตร์ได้พาพี่น้องชาวอำเภอพนมดงรัก เซ่นประกำช้างโดยวันนี้ได้พา 8 หมอช้างของเมืองสุรินทร์ มารวมกันที่นี่ที่บ้านหนองคันนาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจและความเป็นสิริมงคลและให้ช้างป่ากลับเข้าพื้นที่ป่าไป ซึ่ง ณ ตอนนี้พบว่าช้างป่าได้เข้ามาในเขตพื้นที่จำนวน 4 ตัว และออกมาหากินในพืชที่การ เกษตรของชาวบ้าน การที่นำหมอช้างมาทำพิธีเซ่นประกำช้าง ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอีกทางหนึ่งเพื่อให้พี่น้องได้อยู่อย่างร่มเย็นและเป็น สุข เพราะว่าช้างคือสัญลักษณ์ของคนสุรินทร์ ช้างคือสัญลักษณ์ของประเทศไทย และเป็นแนวทางในการที่จะร่วมมือกันในการที่จะส่งเสริมให้คนกับช้างได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
หลังจากนั้นทีมงานและเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยสำราญ- ห้วยทับทัน จ.สุรินทร์ ได้พาทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณประสาทตาเมืองโต๊ด ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งห่างจากตัวหมู่บ้านที่ทำพิธีราวประมาณ 3 กิโลเมตร มุ่งหน้าไปทางปราสาทตาเมือนทม เป็นแหล่งที่พบว่าช้างป่ามักจะเข้ามาพักอยู่บริเวณแหล่งน้ำ หน้าปรา สาท พบว่ามีรอยเท้าของช้างป่าอยู่เต็มบริเวณรอบพื้นที่พื้นที่ นับเป็นแหล่งน้ำและพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ ก่อนที่จะออกหากินไปตามแนวป่าต่อเนื่องไป ซึ่งเจ้าหน้า ที่ ได้บอกกับทีมข่าวว่า ช้างป่ามักจะใช้งวงดื่มน้ำบริเวณสระโบราณหน้าประสาทตาเมือนโต๊ด และทางเจ้าหน้าที่อบต. ก็ได้นำน้ำมาเสริมที่สระ เพื่อให้ช้างป่าได้กินอีกด้วย
นายทิฆัมพร สิงหะ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า กรณีช้างป่าได้เริ่มเข้ามาในพื้นที่ป่าชายแดน ตั้งปี 2563 เป็นต้นมา ส่วนมากจะเป็นช้างสีดอ ถือว่าเป็นช้างขนาดใหญ่เป็นช้างตัวผู้ที่ไม่มีงา ในขณะเดียวกันก็จะมีช้างที่จะมาตามหลังอีกหลายตัว พูดง่ายๆก็เหมือนกับช้างมาสำรวจล่วงหน้าก่อน ก็จะมีช้างตัวเมียที่อยู่ในโขลงเข้าตามมา ซึ่งปัจจุบันก็จะมีเข้ามาอยู่เรื่อยๆปี 3 ครั้ง 4 ครั้งบางครั้งถึง 5 ครั้งต่อปี เป็นการเคลื่อนไหวที่ผ่านไปและผ่านมา ซึ่งจะเข้ามาพักค้างแรมในบริเวณเขตพื้นที่ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะมีสระโบราณจำนวน 4 สระ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ช้างใช้ ซึ่งสระอยู่ในเขตปราสาทร่วมสมัย อย่างเช่นสระปราสาทตาเมือนต็จ อย่างเช่นสระหนองคันนาใน สระแถลง ซึ่งเป็นสระพี่ช้างต้องการใช้น้ำ และพบว่าจะยังมีเข้ามาเพิ่มต่อเนื่อง และเข้าใกล้หมู่บ้านเรื่อยๆ ยังไม่ถึงขั้นทำร้ายผู้คน มีเพียงพืขไร่บางส่วน ซึ่งทางเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน ห้วยสำราญ ก็มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้ามาผลักดันให้เข้าป่าต่อเนื่อง ที่สำคัญได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้กับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการจัดทำแผนสถิติของช้างแต่ละตัว เพื่อสำรวจพฤติ กรรม ในการที่จะดำเนินการดูแลอย่างเข้มงวด ต่อไป.
Discussion about this post