ทอล์คนิวส์ ออนไลน์
  • หน้าหลัก
  • ข่าวทอล์คนิวส์
    • ข่าวเกษตร
    • กองทัพไทย
    • การเมือง
    • การเมืองท้องถิ่น
    • การศึกษา
    • ท่องเที่ยวและกีฬา
    • อาหาร-ร้านอาหารเด็ด
  • เมืองไทยวันนี้
    • ทุกมุมทั่วไทย
    • ถิ่นสยาม เมืองศรีวิไล
  • กระแสโซเชียล
  • พระพุทธศาสนา
  • ดูดวง
  • ประชาสัมพันธ์
  • ที่นี้มีปัญหา
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
ทอล์คนิวส์ ออนไลน์
  • หน้าหลัก
  • ข่าวทอล์คนิวส์
    • ข่าวเกษตร
    • กองทัพไทย
    • การเมือง
    • การเมืองท้องถิ่น
    • การศึกษา
    • ท่องเที่ยวและกีฬา
    • อาหาร-ร้านอาหารเด็ด
  • เมืองไทยวันนี้
    • ทุกมุมทั่วไทย
    • ถิ่นสยาม เมืองศรีวิไล
  • กระแสโซเชียล
  • พระพุทธศาสนา
  • ดูดวง
  • ประชาสัมพันธ์
  • ที่นี้มีปัญหา
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
ทอล์คนิวส์ ออนไลน์
No Result
View All Result
Home ที่นี้มีปัญหา

แม่สุดช้ำ !! ฝากสถานเลี้ยงดูบุตรไม่ได้จดทะเบียนในหมู่บ้านดัง เป็นผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ ถูกทารุณกรรมสารพัด !!

2 ปี ago
in ที่นี้มีปัญหา, ทุกมุมทั่วไทย
Reading Time: 1 min read
0
A A
0
0
SHARES
1
VIEWS
Share on FacebookTwitterLINE

เมื่อเวลา15.00 น.วันที่ 17 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ถ.สนามบินน้ำ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมทีมงาน และ น.ส.วบุณยวีร์ ลุมาเกมลพันธ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรีเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต. ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว. นนทบุรี น.ส.ระวีพรรณ แก้วเพียงเพ็ญ รองผจว.นนทบุรี เพื่อให้ติด ตามคดี ความคืบหน้า กรณีแม่ร้องมูลนิธิปวีณา หงสกุล ว่าตนทำงานอยู่ประเทศเยอรมัน ได้ฝากเลี้ยงดูบุตรชายชื่อน้องแซม(นามสมมุติ) อายุ 29 ปี เป็นผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ประเภท5ประเภท6 แต่ถูกสถานที่ที่รับดูแลทำร้ายร่างกายจนเด็กหวาดกลัว

โดยมารดาที่อยู่ต่างประเทศได้จ่ายค่าเลี้ยงดูน้องให้เดือนละ 3.5 หมื่นบาท น้องแซม กลับถูกทำร้ายร่างกาย ที่ดวงตามีรอยเขียวช้ำ มีร่องรอยคล้ายบาดแผลจากของมีคมจิ้มแทงบริเวณหน้าอก มีรอยใช้ของแข็งทุบมือ และมีรอยไหม้ผิวหนังพุพองที่แขน ให้กินข้าวไข่เจียว ข้าวคลุกผงปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จนทุกวันนี้บุตรชายมีอาการหวาดผวา มีอาการต่อต้านครอบครัว โดยต้องการเอาตัวกลุ่มผู้ทำร้ายร่างกาย ทารุณกรรมเด็กให้ถึงที่สุดตามกฎหมาย

ทั้งนี้ทางข้อมูลในเชิงลึกทราบว่าภายในบ้านทาวเฮาว์หลังดังกล่าวบ้านเลขที่ 159/34 หมู่บ้านทิพย์พิมานริมน้ำ ม.6 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้เปิดเป็นสถานที่รับเลี้ยงดูแลผู้พิการทางสมองและสติปัญญา ยังมีผู้พิการอยู่ในความดูแลของสถานที่ดังกล่าวอีกจำนวน 8ราย อายุระหว่าง 15-29ปี มีทั้งชาย-หญิง โดยยังไม่ทราบว่าสถานที่ดังกล่าวมีใบอนุญาตมีการอบรม หรือผู้ดูแลมีใบอนุญาตวิชาชีพพยาบาล เป็นสถานรับเลี้ยงดู ผู้พิการอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

ขณะที่ นางแหม่ม มารดา (นามสมมุติ) กล่าวว่า ปัจจุบันตนอยู่กับสามีและทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่ประเทศเยอรมัน ช่วงเดือนก.ค.65 ได้กลับมาเยี่ยมบ้านที่จ.อุบลราช ธานี นายเม่น ลูกชายที่อาศัยอยู่กับยายและหลานของตน บอกว่าอยากไปโรงเรียน และอยากทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ซึ่งตนก็ตามใจลูกเพราะคิดเราก็อายุมากคงดูแลลูกไม่ได้ตลอด จากนั้นได้ติดต่อหาโรงเรียนสำหรับดูแลผู้พิการทางสมองหรือพัฒนาการช้า แต่ครูแนะนำว่าลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้วถ้ามาเรียนกับเด็กๆ อาจจะเกิดความแตกต่างและอึดอัด จึงได้แนะนำสถานที่รับดูแลผู้พิการทางทางสมองแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี แม่จึงได้ติดต่อและพาบุตรชายไปที่สถานที่ดังกล่าว

โดยสถานที่พบเป็นบ้าน 2 ชั้น อยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจ.นนทบุรี มีครูพี่เลี้ยง 5 คน ดูแลเด็กพิเศษผู้พิการทาสมองและการเรียนรู้ ที่มีทั้งอยู่ประจำและไปกลับ ซึ่งครูที่เป็นเจ้าของแจ้งค่าใช้จ่ายเดือนละ 30,000-35,000 บาท ในการอยู่ประจำ และบอกว่าจะสอนให้ช่วยเหลือตัวเองได้ มีกิจกรรมให้ทำ พาไปเที่ยวบ้าง และจะไม่ให้เด็กใช้มือถือในช่วงแรก โดยผู้ปกครองจะต้องติดต่อผ่านครู เพราะกลัวเด็กจะไม่เชื่อฟัง จากนั้นแม่ก็ตกลงจะฝากลูกไว้ที่นั่น โดยพาลูกไปส่งวันที่ 18 ก.ค.65 พร้อมข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว และยาประจำตัวที่แพทย์ให้กินทุกวัน จากนั้นแม่ได้เดินทางกลับประเทศเยอรมัน ช่วง 2 เดือนแรก ครูได้ส่งรูปลูกชายเวลาทำกิจกรรมวาดรูป ทานอาหาร ไปทานเคเอฟซี มาให้แม่ดูก็ว่าลูกคงมีความสุข และครูยังบอกอีกว่า ลูกไม่ได้กินยาต่อเนื่องแล้ว โดยอ้างว่าพาไปอาจารย์หมอ บอกว่าลูกชายเป็นปกติไม่ต้องกินยาแล้ว

ต่อมาเดือนพ.ย.65 แม่สังเกตเห็นในรูปลูกชายซูบผอม มีร่อยรอยที่ดวงตา ใบหน้า และที่แขน ครูก็อ้างว่าลูกเดินชนก๊อกน้ำ ทีแรกแม่ก็ไม่คิดอะไรแต่พอผ่านไปร่องรอยที่ใบหน้าและตามตัวก็ยังไม่หาย วันที่ 30 พ.ย.65 จึงให้น้องสาวบินจากมาจากเยอรมันกลับไทยเพื่อมาเยี่ยมหลาน เมื่อมาถึงที่บ้านหลังดังกล่าว ครูอ้างว่าให้น้าเข้าพบเด็กไม่ได้เพราะต้องระวังเรื่องโควิด ทั้งที่น้องสาวก็ได้ตรวจเอทีเคและนำผลตรวจมาแสดง จึงทำได้เพียงแค่คุยกับหลานผ่านวีดีโอคอล ซึ่งน้าก็สงสารหลานมาก เพราะเห็นมีสภาพซูบผอมและร้องไห้ตลอดเวลาระหว่างคุยวิดีโอคอล

น้องสาวมาเล่าให้ตนฟังจึงตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินกลับไทยในวันที่ 23 ธ.ค.65 และแชตคุยบอกครูว่าจะไปรับทันทีที่มาถึงเพื่อกลับบ้านจ.อุบลราชธานี ไปเที่ยวช่วงปีใหม่ แต่ครูก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าครูมีโปรแกรมจะพาเด็กๆ ไปเที่ยว แม่เห็นผิดสังเกตจึงให้คนรู้จักไปดูที่บ้านก็พบว่าทุกคนยังอยู่ในบ้านไม่มีการพาเด็กไปเที่ยวแต่อย่างใด จากนั้นแม่ก็ได้แจ้งครูขอให้คนรู้จักรับเด็กกลับที่จ.อุบลราชธานี ทันที ต่อมาแม่กลับถึงไทยได้พบลูกชายในสภาพซูบผอม จมูกผิดรูป มีร่องรอยคล้ายถูกทำร้าย ที่ใบหน้าและแขน มีรอยถูกแทงที่หน้าอกซ้าย และมือบวมทั้ง 2 ข้าง เวลานอนลูกมีอาการหวาดผวา แม่ต้องใช้เวลาหลายวันจนกว่าลูกจะบอกว่าถูกครู 3 คน ทำร้าย โดยครูผู้หญิงใช้ไม้เรียวตีเวลาโมโห และลูกยังบอกอีกว่า มีวันหนึ่งลูกชายทำพริกป่นหกพื้น ครูชายคนที่ 1 มาเห็นจึงเอาพริกป่นยัดใส่ปาก และใช้สากกะเบือตีมือจนมือบวมปวดมาก และอีกวันครูชายคนที่ 2 หาว่าลูกชายไปหยิบขนมเพื่อนกินจึงเอามีดปอกผลไม้แทงที่หน้าอกซึ่งตอนนี้ยังมีแผลเป็นอยู่

นางแหม่ม กล่าวอีกว่า วันที่ 28 ธ.ค.65 แม่ได้พาลูกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุบล ราชธานี แพทย์พบว่าเด็กมีอาการก้าวร้าว หวาดผวา จึงต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลวันที่ 28 ธ.ค.65 ถึงวันที่ 18 ม.ค. รวม 21 วัน เพราะต้องดูอาการและปรับยา เนื่องจากขาดยามาเป็นเวลานาน แม่เสียใจมากที่ลูกต้องเจอเรื่องแบบนี้ ลูกอยู่อย่างทนทุกข์ถูกทำร้าย นอกจากนี้ลูกยังบอกว่าเวลาอยู่ที่บ้านครูส่วนใหญ่ก็จะกินแต่ข้าวไข่เจียว และข้าวคลุกผงปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

“แม่ต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดที่เขาทำกับลูกแม่ ไม่รู้ว่าเด็กคนอื่นๆ ที่อยู่ในบ้านหลังนี้ จะถูกกระทำแบบลูกแม่หรือไม่ เพราะทางบ้านจะกีดกันไม่ให้ผู้ปกครองเด็กรู้จักพูดคุยกันเลย และก็จะไม่ให้คุยกับเด็กๆ ที่อยู่ที่นั่นด้วย ซึ่งเขาอ้างว่าเดี๋ยวเด็กจะไม่เชื่อฟังครู แม่อยากให้มีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบว่าสถานที่ดังกล่าวเปิดถูกต้องหรือไม่ ครูที่ดูแลมีใบอนุญาตหรือไม่ และขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือติดตามคดีให้ด้วย” ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า วันนี้ได้มาติดตามเรื่องกับทาง พล.ต.ต. ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว. นนทบุรี ถึงความคืบหน้า

น.ส.ระวีพรรณ แก้วเพียงเพ็ญ รองผจว.นนทบุรี กล่าวว่า ทางด้านผู้ว่าราชการจ.นนทบุรี รับทราบเรื่องดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างประ สานทางนายอำเภอบางบัวทองเข้าตรวจสอบว่าสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าวได้ว่ามีผู้ดูแลกี่คน และรวมถึงตรวจสอบว่ามีการกระทำแบบนี้กับใครอีกหรือเปล่า

ขณะที่ พ.ต.อ.จักริน พันธ์ทอง รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า ในทางคดีทางสภบางบัวทองได้รับเรื่อง ร้องทุกข์เรียบร้อยแล้วและได้รวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนของรายงานผู้บาดเจ็บได้มาส่วนหนึ่งแล้ว จะเหลือเพียงคำให้การของแพทย์ซึ่งเป็นผู้ตรวจ ซึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจสอบ สวน สภ.บางบัวทอง จะเดินทางไปที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อไปดำเนินการด้วยตัวเอง หลังจากได้ข้อมูลแล้วจะเข้ากระบวนการพิจารณา พยานหลัก ซึ่งในส่วนนี้ขออนุญาตนำเรียนท่านปวีณาและคุณแม่ว่า เนื่องจากเป็นเอกสารของทางราชการ มันจะต้องนำสู่กระบวนการชั้นอัยการและชั้นศาล ต่อไป ต้องขอสงวนไว้และขอคุยกับคุณแม่อีกที ตอนนี้พูดได้เท่านี้ว่า ขณะนี้ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมไว้พอสมควรแล้ว.

Previous Post

สภาความมั่นคงแห่งชาติเปิดเวทีชี้แจงแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศไทย

Next Post

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งความสุข และกำลังใจแก่ผู้สูงอายุ เลี้ยงอาหารและมอบชุดของขวัญแก่ผู้สูงอายุ ในสถานสงเคราะห์คนชรา

คุณอาจสนใจสิ่งเหล่านี้

Related Posts

ทุกมุมทั่วไทย

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 2 ลงพื้นที่จังหวัดนครปฐม เพื่อติดตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำประตูระบายน้ำคลองเจดีย์บูชา โครงการชลประทานนครปฐม ตำบลศรีษะทอง อำเภอนครชัยศรี

5 ชั่วโมง ago
5
ทุกมุมทั่วไทย

สมาคมคุ้มครองการทำกินของคนไทย วอนรัฐบาลเร่งดูแลผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้ารายย่อย อย่าละเลยให้นายทุนทำให้คนท้องถิ่นอยู่ไม่ได้

5 ชั่วโมง ago
4
ทุกมุมทั่วไทย

เหล่ากาชาดจังหวัดแพร่และชมรมแม่บ้านมหาดไทย เยี่ยมและให้กำลังใจ ผู้ยากไร้ฯ พื้นที่ อ.เมืองแพร่

5 ชั่วโมง ago
3
ทุกมุมทั่วไทย

คณะตรวจราชการสำนักงานจเรตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจราชการ สภ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี เน้นย้ำยกระดับงานบริการและคุณธรรมในองค์กร

6 ชั่วโมง ago
5
Next Post

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งความสุข และกำลังใจแก่ผู้สูงอายุ เลี้ยงอาหารและมอบชุดของขวัญแก่ผู้สูงอายุ ในสถานสงเคราะห์คนชรา

Discussion about this post

ประชาสัมพันธ์

Flash Sale 7 วันเท่านั้น สยามอะเมซิ่งพาร์ค ลดโหด 70% เที่ยวสวนน้ำสวนสนุกไม่อั้นทั้งวันจองด่วนวันนี้ เลือกเที่ยวยาวๆ ถึง 31 ต.ค. 68

9 ชั่วโมง ago
2

น่าน เดินหน้าผลักดันสู่มรดกโลก จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นและเสนอผลการศึกษามรดกทางวัฒนธรรม

10 ชั่วโมง ago
7

กาญจนบุรี – จัดโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ครั้งที่ 7 ประจำปีงบประมาณ 2568 ในพื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย พร้อมนำหน่วยบริการด้านต่าง ๆ ไปให้บริการประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ให้สามารถเข้าถึงการบริการและข้อมูลข่าวสารของภาครัฐได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

12 ชั่วโมง ago
4

กาญจนบุรี – ผวจ.มอบแนวทางการปฏิบัติราชการแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารท้องถิ่น พื้นที่อำเภอด่านมะขามเตี้ย ภายใต้วิสัยทัศน์ “กาญจนบุรี เมืองแห่งความสุข”

12 ชั่วโมง ago
2

กฟก.เชียงราย โอนโฉนดที่ดินและมอบโฉนดที่ดินให้เกษตรกร อำเภอแม่จัน หลังได้รับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร

14 ชั่วโมง ago
13

ติดต่อเรา

  • โทร : 080-592-9659
  • อีเมล : [email protected]
  • Facebook Fanpage

© 2020 www.talknewsonline.com

No Result
View All Result
  • หน้าหลัก
  • ข่าวทอล์คนิวส์
    • ข่าวเกษตร
    • กองทัพไทย
    • การเมือง
    • การเมืองท้องถิ่น
    • การศึกษา
    • ท่องเที่ยวและกีฬา
    • อาหาร-ร้านอาหารเด็ด
  • เมืองไทยวันนี้
    • ทุกมุมทั่วไทย
    • ถิ่นสยาม เมืองศรีวิไล
  • กระแสโซเชียล
  • พระพุทธศาสนา
  • ดูดวง
  • ประชาสัมพันธ์
  • ที่นี้มีปัญหา
  • ติดต่อเรา

© 2020 www.talknewsonline.com

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
No Result
View All Result
  • หน้าหลัก
  • ข่าวทอล์คนิวส์
    • ข่าวเกษตร
    • กองทัพไทย
    • การเมือง
    • การเมืองท้องถิ่น
    • การศึกษา
    • ท่องเที่ยวและกีฬา
    • อาหาร-ร้านอาหารเด็ด
  • เมืองไทยวันนี้
    • ทุกมุมทั่วไทย
    • ถิ่นสยาม เมืองศรีวิไล
  • กระแสโซเชียล
  • พระพุทธศาสนา
  • ดูดวง
  • ประชาสัมพันธ์
  • ที่นี้มีปัญหา
  • ติดต่อเรา

© 2020 www.talknewsonline.com