
จากกรณีที่แม่เด็กหญิงวัย 13 ปี ได้เปิดเผยถึงกรณีที่ บุตรสาว อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้ถูกเพื่อนในชั้นเรียน ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครระยอง ได้ถูกกลุ่มเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกันบูลลี่ ไม่ให้ใครมาคบด้วย กรีดสมุด เขียนข้อความด่าบนโต๊ะเรียนและในหนังสืออย่างรุนแรง จนทำให้บุตรสาวกลายเป็นคนเก็บตัว มีพฤติกรรมรุนแรง ไม่อยากไปโรงเรียน จึงพาไปตรวจรักษาที่ รพ.ระยอง ผลตรวจออกมา บุตรสาวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า // บุตรสาว ได้เปิดเผยตนโดนแกล้งหนักมาก โดนเอาน้ำสาดใส่ตอนอยู่ในห้องน้ำ แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร และยังเขียนข้อความด่าบนโต๊ะของตน หนักสุดก็กรีดสมุดและก็บีบหมึกปาก กาทิ้ง ส่วนครูประจำชั้น ก็ฝากตนมาบอกแม่ ว่า ให้พาแม่มาเขียนใบลาออกได้แล้ว แม่เด็กหญิงวัย 13 ปี วอนขอให้ทางโรงเรียนช่วยหาทางออก ก่อนที่บุตรสาวจะอาการหนักไปกว่านี้ ตามข่าวที่นำเสนอไป
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ก.พ.66 น.ส.นพพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปพบกับ แม่เด็กหญิง 13 และบุตรสาว ที่ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง โดยพบว่าวันนี้ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) ไม่ได้ไปโรงเรียน อยู่บ้านกับมารดา จึงตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
แม่เด็กหญิงวัย 13 ปี กล่าวว่า ดีใจที่วันนี้หน่วยงาน พม.ให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจน้อง ซึ่งทาง พม. ก็จะเป็นคนช่วยประสานกับทางโรงเรียนให้ทั้งเรื่องที่น้องถูกกระทำและเรื่องการเรียนของน้อง ซึ่งในอนาคตก็จะย้ายที่เรียนใหม่ ส่วนระหว่างนี้ก็ต้องรอแนวทางจากทางโรงเรียนก่อน ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้กระทบจิตใจของบุตรสาวอีก ส่วนบุตรสาวหลังจากที่มีเจ้าหน้าที่พม.เข้ามาช่วยเหลือ นำตุ๊กตาและเครื่องเขียนชุดใหม่มามอบให้ เริ่มมีอาการผ่อนคลายขึ้น ท่าทีที่ดีขึ้น ยิ้มแย้ม และพูดคุยเก่ง หยอกล้อเล่นกับทีมงาน
น.ส.นพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง กล่าวว่า เบื้องต้น จากการสอบถามพูดคุยกับแม่และน้อง ถึงเรื่องราวดังกล่าวและประเมินสภาพจิตใจของน้องด้วย ก็พอจะทราบเรื่องราวเบื้องต้นแล้ว หลังจากนี้ก็จะนำข้อมูลที่ได้รับวันนี้ เข้าไปประชุมกับทางผอ.โรงเรียนและคณะครูของน้องเพื่อหาแนว ทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะนี้อีก ส่วนเรื่องการเรียนของน้องตอนนี้ คุณแม่กับน้องไม่ประสงค์ที่จะเรียนที่นี่ต่อ จึงช่วยประสานเรื่องการเรียนของน้องเพื่อที่จะไปศึกษาต่อที่โรงเรียนปลายทางที่กำลังจะย้ายไปด้วย และ อยากฝากถึงทุกครอบครัวหากเกิดเหตุเรื่องของการบูลลี่ซึ่งเป็นสิ่งกระทบต่อจิตใจเด็ก อยากให้ครอบครัวหมั่นใส่ใจดูแลสอบถามลูกหลานของตัวเองอย่าปล่อยผ่านจะได้รู้ถึงสภาพจิตใจเด็กว่าเป็นอย่างไร และหากเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้สามารถโทรแจ้ง ได้ที่เบอร์ 1300 สายด่วน พม. ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายมนตรี สิริทัตสุนทร ผอ.โรง เรียนนกล่าวว่า หลังจากประชุมเรื่องดังกล่าว ตนยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และพร้อมให้ความช่วยเหลือน้อง เพราะทราบข่าวว่าน้องเองซึ่งเป็นโรคซึมเศร้า ส่วนเรื่องสมุดที่ถูกกรีดจากการสอบสวนเด็ก เพื่อนน้องก็ให้การยืนยันว่าสมุดนั้นมีสภาพฉีกขาดแบบนั้นอยู่แล้ว เพื่อนน้องแค่หยิบดูเท่านั้น ส่วนเรื่องบูลลี่ทางคณะครูก็รายงานว่าก็ได้มีการกล่าวตักเตือนและทำโทษกลุ่มเด็กไปแล้ว ซึ่งระหว่างนี้ทางคุณแม่น้องก็ได้ประสงค์ที่จะขอย้ายน้องออกจากโรงเรียน ตนก็ได้ให้คำแนะนำว่าให้สอบให้เสร็จก่อนหากย้ายระหว่างนี้น้องจะต้องไปเรียนชั้น ม.1 ใหม่ ซึ่งตนก็ได้ข้อสรุปจากการประชุมคือระหว่างช่วงสอบก็จะให้น้องแยกสอบไปก่อน ไม่ให้รวมกับเพื่อนๆ เพื่อให้น้องไม่กดดันและเครียด และหลังจากนี้ทางโรงเรียน จะมีการจัดอบรม โดยร่วมกันหลายหน่วยงาน ทั้งโรงเรียน และหน่วยงาน พม. นำนักจิตวิทยามาอบรมให้ความรู้แก่คณะครู เด็ก และผุ้ปกครอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก ส่วนหากคุณแม่น้องจะเปลี่ยนใจให้น้องเรียนต่อทีนี่ทางโรงเรียนก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง จะแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่.
Discussion about this post