
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 23 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางไปเป็นประธานในพิธีทำลายอาวุธปืนของกลาง โดยมี พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์ ผบช.สกบ. พล.ต.ต. พงษ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผบก.ภ. ระยอง เข้าร่วมพิธีเป็นสักขีพยาน ที่ บริษัท มิลล์ตอน สตีล จำกัด (มหาชน) อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ทั้งนี้สืบเนื่องจากตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกมิติ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าว ได้สั่งการหน่วยระดมกวาดล้างจับกุมขยายผล ทลายเครือข่ายอาวุธปืนผิดกฎ หมาย รวมทั้งการลักลอบค้าปืนออนไลน์ พร้อมกำชับการจำหน่าย ทำลายอาวุธปืนของกลาง เพื่อป้องกันมิให้มีการนำเอาอาวุธปืนดังกล่าวกลับมาใช้ก่อเหตุในคดีอาญา หรือลักลอบจำหน่ายไปยังบุคคลไม่หวังดี ตกอยู่ในมือของคนร้าย รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนด้วย โดยพิธีทำลายอาวธปืนของกลางดังกล่าว ศาลได้มีคำสั่งให้ริบเป็นของกลางและคดีถึงที่สุดแล้ว โดยถูกเก็บไว้ที่กองสรรพาวุธ ก่อนจะขออนุมัติทำลายอาวุธปืนของกลางดังกล่าว โดยใช้วิธีการทำลายผ่านเครื่องจักรบดอัดให้เสียสภาพแล้วนำไปหลอมในเตาอุณหภูมิสูง เพื่อให้อาวุธปืนของกลางทั้งหมดสิ้นสภาพที่จะนำไปใช้งานได้ โดยครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท มิลล์ตอน สตีล จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเครื่องเครื่องคุณภาพสูงในการหลอมโลหะด้วยอุณหภูมิสูง

ผบ.ตร.กล่าวว่า มีอาวุธปืนของกลางเข้าสู่กระบวนการหลอมทำลายในวันนี้ จำนวน 13,559 กระบอก นอกจากนี้ยังมีอาวุธผืนส่วนหนึ่งเข้าระเบียบที่หน่วยงานระดับสถานีสามารถทำลายเองได้ และมีการดำเนินการทำลายไปแล้วในช่วงวันที่ 1 ต.ค.65-31 ม.ค.66 อีกจำนวน 7,176 กระบอก รวมจำนวนอาวุธปืนที่ทำลายทั้งสิ้น 20,735 กระบอก เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชา ชน ไม่ให้มีการนำอาวุธปืนของกลางซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วออกไปใช้ในทางมิชอบ อย่างไรก็ตามการทำลายอาวุธปืนของกลางดังกล่าว เป็นเพียงส่วนหนึ่งในมาตรการปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมายของตำรวจ ที่ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกมิติ ทั้งการระดมกวาดล้าง จับกุมแหล่งผลิต จำหน่าย โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายออน ไลน์ เมื่อจับกุมได้แล้วก็จะดำเนินการกับผู้อยู่เบื้องหลังทุกราย รวมทั้งประสานฝ่ายปกครองในการเพิกถอนใบอนุญาต เพื่อแก้ปัญหาอาวุธปืนผิดกฎหมายไม่ให้นำมาก่อเหตุความรุนแรงในสังคมตามนโยบายของรัฐบาล.
Discussion about this post