นักปั่นเฮ !! “หัวหิน” เตรียมจัดแข่งจักรยานกราเวลทางไกล ลุยเส้นทางธรรมชาติ

วันที่ 27 ก.พ.66 ที่โรงแรมไอบิส หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบฯ พร้อมด้วย นายสนิท ทรัพย์มา รองนายก อบต.หนองพลับ อ.หัวหิน นายคงพันธุ์ ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการ ผจก.บริษัท ไบค์ โซน จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวการแข่งขันจักรยานกราเวลทางไกล DUSTMAN The Gravel Journey Hua Hin ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 มีนาคม 66 ที่ไร่วนาทิพย์ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติร่วมรับฟัง
การปั่นจักรยานเสือหมอบแนวผจญภัย หรือเป็นที่รู้จักกันว่า “กราเวล” กำลังเป็นเทรนสุดฮิตอย่างมากทั้งในฝั่งทวีปอเมริกาและยุโรป โดย BZE ได้จัดการแข่งขันครั้งแรกของประเทศไทยในปี 2565 การปั่นจักรยานประเภทนี้จะนิยมกันปั่นบนถนนที่มีขนาดเล็กหรือถนนลูกรังที่มีรถยนต์สัญจรไปมาน้อย ซึ่งให้ความปลอดภัยและความเป็นอิสระสูง การแข่งขันจักรยานเสือหมอบแนวผจญภัยจะใช้เวลาระหว่าง 4-8 ชั่วโมง ตามทักษะและความแข็งแกร่งของนักกีฬา โดยมากเส้นทางการแข่งขันจะประกอบไปด้วยพื้นดิน 70% และพื้นถนนอีก 30% โดยเส้นทางการแข่งขันมีตั้งแต่ทางลูกรัง ถนนซิเมนต์ และถนนราดยาง ผู้เข้าร่วมแข่งขันสามารถใช้จักรยานได้ทุกประเภท แต่ไม่อนุญาตให้ติดแอโร่บาร์ และใช้จักรยานไฟฟ้า ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bikezone.events/th/dustman-th/

นายอาชวันต์ กงกะนันทน์ ผอ. ททท.ประจวบฯ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ซึ่งอำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี มีศักย ภาพในด้านสถานที่ที่เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาแทบทุกชนิดกีฬา โดยที่การจัดการแข่งขันจักรยานรายการ Dustman The Gravel Journey Hua Hin วันที่ 4-5 มีนาคม 2566 เป็นการแข่งขันจักรยาน Gravel เส้นทางธรรมชาติ 2 ประเภท ได้แก่ ประเภท Explore ระยะทาง 60 กิโลเมตร และประเภท Expert ระยะทาง 120 กิโลเมตร ทั้งนี้ จะเป็นการส่งมอบประสบการณ์ใหม่การท่องเที่ยวให้เป็นการแข่งขันกีฬาและการท่องเที่ยวที่มีความหมาย เนื่องจากการแข่งขันจักร ยานแบบ Gravel มีความท้าทาย ท่ามกลางเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก และมีโอกาสแนวโน้มสูงที่จะเป็นกระแสความนิยมในประเทศไทย ทั้งนี้ ททท.สำนักงานประจวบฯ ยังมุ่งเน้นการสื่อสารภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงกีฬาของหัวหิน -ปราณบุรี สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ตลอดจนการกระจายรายได้ลงไปในชุมชนอีกด้วย.