เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ ถนนศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นายมนตรี สิงหปุณณภัทร, นายบุญฤทธิ์ พาณิชย์รุ่งเรือง รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมด้วย พนักงานเทศบาลนครขอน แก่น เข้าร่วมกิจกรรมล้างทำความสะอาดถนน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ทำความสะอาดถนนศรีจันทร์ ตั้งแต่สี่แยกประตูเมือง – สี่แยกถนนศรีจันทร์ ตัด ถนนหน้าเมือง หลักจากที่ได้มีการทำความสะอาดไปแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 วันที่ 16 ก.พ. 66 ณ ถนนหน้าเมือง, ครั้งที่ 2 วันที่ 17 กพ. 66 ณ ถนนบริเวณรอบสถานี บขส.เก่า ส่วนในวันที่ 9 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมาเทศบาลตำบลเมืองเก่า โดยการนำของนายโกเมศ ทีฆนานนท์ นายกเทศมนตรี ว่าที่ร้อยตรีวีระวัฒน์ ปาระแก้ว ปลัดเทศบาล ได้นำกำลังของสมาชิก อปพร.ในสังกัด พนักงานเทศบาล ร่วมกันทำ big cleaning day พร้อมทั้งล้างถนนริมหนองซองแมวเพื่อกำจัดฝุ่นละออง PM 2.5 ในส่วนทางเทศบาลตำบลพระลับ ได้ดำเนินการฉีดล้างถนน และสนามกีฬาโรงเรียน เพื่อปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ ดังนี้1)ถนนลาดยาง บ.พระคือม.16 2)ถนนลาดยาง บ.ผือ ม.1,2 ,19 ต.พระลับ3)สนามกีฬา รร. บ้านผือสวัสดิราษฎร์ 4)สนามกีฬา รร.บ้านหนองแสงโคกน้อย
ทั้งนี้ กิจกรรมการทำความสะอาดถนนนลดฝุ่น PM 2.5 ได้มีการกวาดทำความสะอาด ฉีดน้ำกวาด ล้างถนน เพื่อชะล้างฝุ่นและ ลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่มีผลกระทบกับประชาชน ซึ่งการลดปัญหาฝุ่นละอองบนถนนเป็นอีกหนึ่งมาตรการในการลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอากาศที่จังหวัดขอนแก่นได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
สำหรับ ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดอนุภาคเล็กมากๆ (ขนาดเล็กกว่า2.5ไมครอน ด้วยขนาดที่เล็กมากๆ เราจึงมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ถ้าฝุ่นนี้มีปริมาณสูงมากๆ ในอากาศ จะดูคล้ายกับมีหมอกหรือควัน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเผาไหม้จากท่อไอเสียของเครื่องยนต์ ควันบุหรี่ การเผาขยะ เผาหญ้า เผาเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงงาน เป็นต้น ฝุ่น PM 2.5 นี้ ยังสามารถรวมตัวกับสารมลพิษ เช่นสานไฮโดรคาร์ บอน และโลหะหนัก และด้วยขนาดที่เล็กมากจึงสามารถลอดผ่านการกรองของขนจมูก ไปยังหลอดลม และลงลึกจนถึงถุงลมปอดและซึมเข้าสู่กระแสเลือด และทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ผลเสียต่อร่างกาย ในวันที่อากาศไม่ดี มีค่าฝุ่นมลพิษสูง หลายคนคงรู้สึกแสบตา แสบจมูก เจ็บคอ ระบบทางเดินหายใจ เมื่อหายใจเอาฝุ่น PM2.5 เข้าไป จะรู้สึกแสบจมูก ไม่สบาย ไอและมีเสมหะได้ ในคนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคภูมิแพ้,โรคปอด (เช่น หอบหืด, ถุงลมโป่งพอง) ต้องระวังสุขภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากฝุ่นนี้จะทำให้โรคกำเริบได้ง่าย ในระยะยาวมีผลทำ ให้เกิดโรคมะเร็งปอด โรคระบบหัวใจ และหลอดเลือดได้ นอกจากนี้ยังทำลายผิวของเราได้ด้วย.
ภัสสะ บุญธรรม/ขอนแก่น.
Discussion about this post