สร้างความฮือฮาไม่น้อย สำหรับนโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งมี ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ เป็นหัวหน้าพรรค ชูนโยบายการหาเงินเพื่อมาช่วยคนแก่ คน จน โดยจะขุดหวยใต้ดิน ขึ้นมาเปิดเป็นหวยบนดิน เปิดบ่อนคาซิโน เพื่อนำเงินที่ได้จากการเล่นหวย เล่นการพนัน นำมาใช้จ่ายเป็นเงินให้คนแก่เดือนละ 5 พันบาท/คน พร้อมกับมีเงินให้คนจนเดือนละ 3 พันบาท เงินค่าทำศพ
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 16 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนกลางเมืองพิษณุโลก นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย ภคอร ชีวานันท์ รองหัวหน้าพรรค กุ้งพลอย กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หรือ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อ่างทอง ลูกศร อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ ดารานักแสดง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางแค พร้อมเหล่าสมาชิกพรรคได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อเปิดเวทีปราศรัยใหญ่กับพี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลก ก่อนจะขี่รถซาเล้งแดงตระเวนไปรอบๆ เมือง เพื่อเชิญชวนชาวพิษณุโลกมาร่วมรับฟังนโยบายของพรรค จากนั้นได้ไปพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาดสดบ้านคลอง เพื่อขอคะแนนจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าซึ่งก็ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีโดยการเดินทางโดยรถสามล้อเครื่อง นายเต้ มงคลกิตติ์ เป็นผู้ขี่สามล้อเครื่องด้วยตนเอง นำคณะลูกทีม มุ่งหน้าไปหาเสียงท่ามกลางความฮือฮาว่า หัวหน้าพรรคจะสามารถขี่รถสามล้อดังกล่าวได้หรือไม่
จากนั้น ได้เดินทาง ย้อนกลับมาที่จุดบริเวณเวทีสวนกลางเมือง เพื่อเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ซึ่งป้ายบนเวทีเขียนว่า “ ถึงเวลา เปลี่ยนเลือกเต้ เป็นนายกรัฐมนตรี คนเมืองพิษณุโลก คนไทยศรีวิไลย์” ซึ่งการหาเสียงมีข้อความตอนหนึ่ง จากหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ระบุว่าตัวเองเป็นชาวจังหวัดพิษณุ โลก ได้เข้ามาเล่นการเมืองโดยไม่มีการซื้อเสียงจากประชาชนแต่อย่างใด ขณะที่ ส.ส .ในสภามีจำนวนน้อยมากที่ไม่ซื้อเสียงเข้ามา ซึ่งจำนวนผู้ที่ไม่ซื้อเสียงเลยแทบนับจำนวนคนได้ ยิ่งในยุคนี้ ไม่เพียงซื้อเสียงจากประชาชนยังมีการซื้อเสียง ส.ส. เพื่อไปอยู่พรรคของตนเองด้วย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นห่วงบรรดาลูกหลาน โดยเฉพาะเรื่องกัญชา ที่ระบุเป็นพืชสมุนไพร ในขณะที่เด็กรุ่นใหม่ไม่รู้ว่า กัญชาเป็นยาเสพติด หรือ สมุนไพรแน่ ซึ่งทางพรรคเราอยากให้คงกัญชาเป็นยาเสพติด แต่สามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคได้
ส่วนนโยบายพรรค เราจะไม่หา เงินจากการกู้ยืมเงินจากต่างชาติอีกต่อไป พรรคเรามีนโยบายสนับ สนุนเงินคนแก่ 5,000 บาทต่อเดือน ซึ่งปัจจุบันคนแก่ของประ เทศมี 12 ล้าน 1 แสนคน ซึ่งทางพรรคเรามีนโยบายจะนำเงินจาก หวยใต้ดิน ทำให้เป็นหวยบนดิน ซึ่งจะทำให้มีเงิน 760,000 ล้านบาท โดยจัดแบ่งเงินรางวัลดังกล่าวนำมาจัดสรรเพื่อมอบให้กับคนแก่เดือนละ 5,000 บาทต่อคน ส่วนนโยบายที่ 2 จะดันนโยบาย 500,000 บาทต่อ 1 ศพ เพื่อให้ครอบครัวมีการจัดงานศพทำบุญ 7 วัน 100 วัน 1 ปี สำหรับเงินที่จะนำมานั้น เนื่องจากประเทศไทยมีบ่อนการพนัน 2,000 บ่อนเปิดอย่างผิดกฎหมายถ้าเรานำบ่อนมาเปิดให้ถูกกฎหมายโดยอนุญาตให้ผู้ประกอบการจ่ายใบอนุญาตในราคาสูง 50,000 ล้านบาทต่อใบ จะทำให้ประเทศมีรายได้จากบ่อนการพนัน จำนวน 260,000 ล้านบาท นำมาจัดสรร ให้ญาตินำไปจัดงานศพ
นอกจากนี้มักจะนำเงินจากบ่อนการพนันหวยบนดินนำเงินมาจัดทำระบบเพิ่มเงินเดือนให้กับข้าราชการทั้งระบบอย่างน้อย 10% ทุกปี นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรรายได้ให้กับ อสม. ผู้นำชุมชน เงินคนจน อีกรายละ 3,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้จะมีการเปิดบ่อนคาสิโนให้ต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้าเข้ามาในประเทศปีละ 40,000 คนมาเล่นการพนันโดยผู้เล่นจะต้องมีเงิน 100 ล้านบาทเข้ามาเล่นคาสิโนในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จัดไว้ จึงคาดว่าจะมีรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท บริหารโดยไม่มีการกู้เงินจากต่างชาติแต่อย่างใด พร้อมฝากถึง ประยุทธ ประวิทย์ ว่าอย่าก๊อปปี้ นโยบายตนเด็ดขาด ถ้าจะก๊อปปี้ต้องมาคุกเข่าขอผมจะบอกวิธี คนทำต้องตั้งใจทำ ถ้าไม่ตั้งใจจะทำไม่สำเร็จ
จากนั้นได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายยุทธนา แพนคร เขต 2 นายทองแดง สิงห์ทอง และ เขต 3 นายวัชโรจน์ สีม่วง ระหว่างที่ปราศรัยอยู่นั้นพี่น้องประชาชนต่างมามอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจอย่างล้นหลามทีเดียว
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ข่าวกระแสร้อนแรงที่จะมีการซื้อตัว ส.ส. นั้น ตนได้ปฏิเสธไปทุกสายแล้ว และมีการขู่เรื่องคดีและตัดสิทธิ์ก่อนการเลือกตั้ง ก็ไม่รู้จะยัดอะไรก็ยัง งง อยู่ เรื่องค่าตัวขอไม่พูดถึง ขนาด ส.ส.เขตธรรมดายัง 70 ล้าน แล้วตัวเองจะเท่าไร แต่ตนก็ไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการยุบพรรคการเมืองพรรคใหญ่นั้นมีโอกาสเป็นไปได้สูง ตนมองว่าแต่ละพรรคก็ทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งหลายกรรมหลายวาระด้วยกัน ซึ่งถ้าจะยุบพรรคเป็นไปตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองก็สามารถทำได้ เพราะกติกาใหม่ กกต. ก็สามารถวินิจฉัยได้ในระยะเวลาอันสั้นแล้วส่งศาลรัฐธรรมนูญเลย พรรคใหญ่ในขณะนี้ที่คิดว่าจะแลนด์สไลด์ก็อาจจะโดนยุบได้ อย่าฝันไปเลยที่จะจัดตั้งรัฐบาลเพราะเป็นไปได้ยาก ส่วนนโยบายเด่นๆ ที่คิดว่าจะเปิดที่พิษณุโลกก่อนและค่อยๆ เปิดตัวทั่วประเทศ คือ ข้าราชการประจำ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือพนักงานบริษัทที่เสียประกันสังคมมาตรา 33 39 40 จะปรับขึ้นเงินเดือนปีละ 10% ของอัตราค่าแรงงานที่แต่ละจังหวัดกำหนดไว้ และปรับค่าแรงขึ้นด้วยซึ่งแต่ละจังหวัดไม่เท่ากันปีละ 10% ประมาณวันละ 500 กว่าบาท ซึ่งผู้ประกอบการก็ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าด้วย จะทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกลตลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องรอให้ตนได้เป็นรัฐบาลเสียก่อนว่าจะปฏิบัติอย่างไร นายมงคลกิตติ์กล่าวทิ้งท้าย.
Discussion about this post