‘ปั้น ณัทกร’ ผู้สมัครหน้าใหม่ หลั่งน้ำตา ปลื้มแฟนคลับให้กำลังใจแน่น ศึกเลือกตั้งนครปฐม คึกคัก !!

สีสันบรรยากาศสมัครรับเลือกตั้งจังหวัดนครปฐม หนุ่มเข้มหน้าใหม่ ปั้น ณัทกร หลั่งน้ำตา ตื้นตันไม่คาดแฟนคลับคล้องมาลัยยินดีแน่นเกินคาด โดยเสธ.แก้ว ยังมั่นใจในแคนดิเดทลุงตู่ และหัว หน้าพรรคพีระพันธุ์และฐานเสียงเดิม ส่วนบ้านสะสมทรัพย์ เข้าสมัครพร้อมทำการบ้านหนักหวังเข้าวินครบทุกคน ส่วนเพื่อไทยมั่นใจหวังคะแนนเทแลนด์สไลด์ ทั้งประเทศ

วันนี้ 3 เมษายน 2566 บรรยากาศเก็บตกหลังการเปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม ซึ่ง กกต.จังหวัดปฐมได้เปิดรับสมัครในวันนี้พร้อมกันทั่วประเทศ โดยกระแสการตื่นตัวในการรับสมัครวันแรกช่วงเช้าพบว่ามีผู้สมัครจากหลายพรรค การเมืองที่ได้นำทีมขนผู้สมัครเข้ามาสู่สนามเลือกตั้งอย่างคึกคักโดยมีบรรดากองเชียร์ จากหลายพรรคและหลายเขตได้มารอปักหลักเพื่อคล้องมาลัยและมอบดอกไม้ให้กำลังใจกับผู้สมัครที่เป็นขวัญใจของตัวเองหน้าสถานที่รับสมัครหลายร้อยคน ซึ่งทางกกต.จังหวัดนครปฐม ได้มีการกำหนดเขตพื้นที่และแจ้งข้อกำ หนดเรื่องการเปิดเพลงและการแสดงรื่นเร่งเหมือนงานมหรสพอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายเรื่องตั้งไว้แล้ว

ซึ่งนอกจากการได้เห็นว่าที่ผู้สมัครได้เดินหน้าเข้าสนามเลือกตั้งอย่างเต็มตัวในการลุ้นผลการตรวจสอบเอกสารนและคุณสมบัติแล้ว สิ่งที่กองเชียร์จะมาลุ้นกันคือ การจับฉลากหมายเลขของการหาเสียงซึ่งบางส่วนมองว่ามีผลต่อการจดจำของฐานเสียงและเตรียมจะนำไปติดกับป้ายหาเสียงสำหรับประชาสัมพันธ์เพื่อขอคะแนนจากชาวบ้านในศึกเลือกตั้งครั้งนี้

โดยสีสันมีการจับจ้องมาที่ เขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นสนามการเลือกตั้งขอคนหนุ่มอย่าง ปั้น ณัทกร แก้วพิจิตร ผู้สมัครจากพรรครวมไทยสร้างชาติ หลานชายของนายสุนทร แก้วพิจิตร ตำนานนัก การเมืองของตระกูลแก้วพิจิตร ซึ่งเป็นคนหนุ่มที่เป็นเจเนอร์เรชั่นที่ 3 ที่ได้ก้าวเข้ามาในเส้นทางทางการเมือง โดยหลังจากจับฉลากได้หมายเลข 9 กองเชียร์และออกมาพบกับแฟนคลับที่มารอรับที่จุดรับสมัครก็ถึงกับหลั่งน้ำตา เนื่องจากเจ้าตัวไม่คาดคิดว่าจะมีแฟนคลับติดตามมาให้กำลังใจเกินคาด โดยจะต้องมาเจอคู่แข่งที่เป็นคนหนุ่มเช่นกัน คือนายศุภโชค ศรีสุขขจร หรือ สจ.ฟิล์ม ผู้สมัครหมาย เลข 2 จากพรรคชาติไทยพัฒนาที่ถูกผลักดันจากตระกูลสะสมทรัพย์ให้มาลงสู้ศึกในครั้งนี้ โดย ที่มี นางสาวจารุพรรณ เพชรดี ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคก้าวไกล เข้ามาเป็นผู้หญิงที่หวังจะมาคว้าคะแนนวัยรุ่นในพื้นที่

ขณะที่ เขตเลือกตั้งที่ 2 พ.ท.ดร. สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับหมายเลข 4 ซึ่งต้องแข่งขันกับผู้สมัครนางสาวธนัญญา พันธุ์การรุ่ง ผู้สมัครหมายเลข 5 จากพรรคเพื่อไทยและนางสาวศศนันท์ รัตนบันเทิง ผู้สมัครหมายเลข 6 จากพรรคก้าวไกล ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 เป็นการป้องกันตำแหน่งเก้าอี้เดิมของ นายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ (ส.ส.โหน่ง) ผู้สมัครหมายเลข 5 จากพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งต้องลงชิงชัยกับนายทรงพล ชูศิลป์กุล ผู้สมัครหมาย เลข 8 จากพรรคเพื่อไทย

เขตเลือกตั้งที่ 4 เซียนสนามเลือกตั้งในพื้นที่จับตาดู นายก่อเกียรติ สิริยเสถียร ผู้สมัครหมายเลข 4 จากพรรคชาติไทยพัฒนา ที่จะต้องลงชิงเก้าอี้กับ นายวินัย วิจิตรโสภณ หรือ สจ.วินัย ผู้สมัครหมายเลข 10 จากพรรคเพื่อไทย นายชรินทร์ ลี้ไพบูลย์ ผู้สมัครหมายเลข 5 จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 5 นายอนุชา สะสมทรัพย์ (เฮียหมวย) ผู้สมัครหมายเลข 4 พรรคชาติไทยพัฒนา ลงชิงชัยกับนายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ผู้สมัครหายเลข 6 พรรคภูมิในไทย เจ้าของเก้าอี้เดิมที่เคยสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เขตเลือกตั้งที่ 6 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครหมายเลข 7 พรรคชาติไทยพัฒนา เจ้าของเก้าอี้ พบกับนายสุรชัย อนุตธโต หรือ สจ.สุรชัย ผู้สมัครหมายเลข 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ

โดย พ.ท.ดร.สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) ผู้สมัครหมายเลข 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่าตอนนี้ก็มีความตั้งใจการหาเสียงในพื้นที่และเชื่อมั่นในฐานเสียงเดิมแม้จะมีการเปลี่ยนพื้นที่ไปบ้าง แต่ก็มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยความเชื่อมั่นในตัวพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา หนึ่งในแคนดิเดทพรรค ว่ามีความจงรักภักดีเป็นที่ตั้งเห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคฯ ชัดเจนว่ามีประสบการณ์การในการทำงานมาสูงมาก ซึ่งน้อยคนจะหาคนที่ทำงานได้พร้อมขนาดนี้

ส่วน นายวินัย วิจิตรโสภณณ ผู้สมัครหมายเลข 10 จากพรรคเพื่อไทย (หัวหน้าสายจังหวัดนคร ปฐม) กล่าวว่า วันนี้เราได้เดินหาเสียงลงในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ครบทั้ง 6 เขตซึ่งมีกระแสตอบรับดี โดยเราหวังว่าคะแนนของพรรคทั้ง 6 เขตจะสามารถทำให้เกิดแลนด์สไลด์ร่วมกับทั่วประเทศ

ซึ่งปีนี้ดูเหมือนการแข่งขันชิงชัยเก้าอี้ ทั้ง 6 เขตเลือกตั้งจะมีผู้สมัครเดินหน้าเข้าสมัครคึกคักกว่าครั้งก่อนโดยเฉพาะกองเชียร์ในกลุ่มพื้นที่และกลุ่มที่จับตาจากสื่อออนไลน์ ต่างเริ่มจับตาดูชั้นเชิงในการหาเสียงของผู้สมัครทั้งมวยเก๋ามากประสบการณ์และนักการเมืองหน้าใหม่ที่เริ่มเข้ามาเดินลงสู่สนามการเมืองเป็นครั้งแรก ซึ่งใครจะเข้าวิน 14 พ.ค.นี้ รู้กัน.