
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 66 ที่สนามวงกลมอำเภอขุนหาญ จ.ศรีสะ เกษ นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอขุนหาญ เป็นประธานเปิดงานประเพณีมหาสงกรานต์สืบ สานวัฒนธรรมไทย ประจำปี 2566 โดยมี นายเจริญชัย จิตรโชติ นายกเทศมนตรีตำบลขุน หาญ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และประชา ชนในพื้นที่ ให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย พิธีทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย ขบวนแห่บุพชาติอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และรูปหล่อพระครูสิริกันทรลักษ์ ให้ประชาชนสรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคล พิธีสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ และกิจกรรมรำวงสงกรานต์ย้อนยุกต์ขุนหาญ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีสงกรานต์อันเป็นประเพณีเก่าแก่ให้อนุชนรุ่นหลัง ได้เห็นถึงคุณค่าความงดงามของประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความสามัคคีในชุมชนและสังคม เพื่อส่งเสริมและการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้สูงอายุและบุพการี เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป และเพื่อเป็นการจัดพื้นที่ให้ประชาชนได้เล่นน้ำสงกรานต์ ตลอดจนเป็นการสำนึกรักบ้านเกิดอีกด้ว

ขณะที่ ที่วัดสำโรงเกียรติ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พระครูอรุณปุญโญภาส เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ เป็นประ ธานฝ่ายสงฆ์ นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอขุนหาญ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นายบวรพัฒน์ รุ่งคำ นายก อบต.บักดอง และนายทิวา รุ้งแก้ว นายกพุทธสมาคมจังหวัดศรีสะเกษ นำชาวบ้าน พุทธศาสนิกชน ร่วมกันประ กอบพิธีบวงสรวง อัญเชิญองค์พระ “หลวงพ่อพระตาตน” จัดขบวนแห่รอบหมู่บ้าน เพื่อให้สาธุชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปได้สรงน้ำของพร เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2566
พระครูอรุณปุญโญภาส เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเป็นประ จำทุกปี เพื่อเป็นการเผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมอันดีของตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ เพื่ออนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นให้เป็นมรดกสืบทอดต่ออนุชนรุ่นหลัง เพื่อสร้างความสามัคคีและการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมของประชาชน และเพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และการท่องเที่ยวของอำเภอขุนหาญให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
ทั้งนี้ สำหรับประวัติ “หลวงพ่อพระตาตน” เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ แบบขอมโบราณ ปางสมาธิสะดุ้งมาร ขนาดหน้าตักกว้าง 4 นิ้ว สูง 5 นิ้ว สร้างด้วยเกสรดอกไม้ผสมครั่งหรือชันปั้น แต่ไม่ปรากฎหลักฐานว่าสร้างตั้งแต่เมื่อใด สาเหตุที่พระพุทธรูปองค์นี้ถูกเรียกขานว่า “พระตาตน” เพราะตั้งตามชื่อของคนที่นำมาถวาย คือ นายตาตน เป็นชาวเขมรต่ำ มีญาติอยู่ที่บ้านสำโรงเกียรติ ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ วันหนึ่งนายตาตน ได้นำไซไปดักจับปลาที่ร่องน้ำเชิงเขา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านสำโรงเกียรติ ได้ไปเก็บกู้ใซที่ดักเอาไว้ไม่พบปลาสักตัว แต่ได้เห็นพระพุทธรูปติดอยู่ในไซ จึงเอาออกแล้วโยนลงน้ำคืนที่เดิม ต่อมาวันรุ่งขึ้น นายตาตน ได้ไปเก็บกู้ไซอีก เห็นพระพุทธรูปติดไซอยู่เช่นเดิม จึงมีความคิดขึ้นมาว่าเคยโยนพระพุทธรูปลงน้ำแล้ว แต่พระ พุทธรูปยังมาติดไซอีก จึงคิดว่าคงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นจึงได้นำมาฝากไว้ที่บ้านญาติ พอตกเวลากลางคืน ญาติฝันว่านำพระเข้าบ้านจะไม่เป็นมงคล ให้นำไปฝากไว้ที่วัด นายตาตน จึงได้นำพระ พุทธรูปเกสร ไปถวายวัดสำโรงเกียรติ เพื่อเป็นสมบัติของวัดต่อไป เจ้าอาวาสจึงแจ้งให้ญาติโยมประชาชนใกล้เคียงได้ทราบทั่วกัน ต่างพากันมานมัสการอย่างคับคั่งและเรียกขานองค์พระดังกล่าวว่า “หลวงพ่อพระตาตน”
เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ กล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อ พ.ศ. 2420 พระ ยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์ ได้มาอาราธนาพระตาตน เพื่อนำไปประดิษฐานไว้ ณ เมืองขุขันธ์ หรืออำเภอขุขันธ์ โดยได้จัดขบวนช้าง ม้า อัญเชิญหลวงพ่อพระตาตนขึ้นบนหลังข้าง และขบวนออกจากวัดสำโรงเกียรติ จะข้ามสะพานหัวยทาไปเพียงเล็กน้อย เกิดลมพายุพัดมาทั้ง 4 ทิศ ฝนก็ตกมาอย่างหนัก ช้าง ม้า หมอบกราบลงกับพื้น เสียงฟ้าร้องคำรามราวกับแผ่นดินจะถล่ม เจ้าเมืองขุขันธ์ เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์ จึงได้ประกาศว่า ถ้าลมฝนหยุดตก ก็จะนำหลวงพ่อพระตาตน กลับวัดสำโรงเกียรติ ไว้ที่เดิม พอประกาศเสร็จลมฝนก็หยุดทันที เจ้าเมืองขุขันธ์ จึงให้นำขบวน ช้าง ม้า กลับ นำหลวงพ่อพระตาตนไปประดิษฐานวัดสำโรงเกียรติ ดังเดิม
ต่อมาไม่นานได้เกิดไฟไหม้กุฏิที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระตาตน จนวอดทั้งหลัง ชาวบ้านเข้าใจว่าหลวงพ่อพระตาตน ถูกไฟไหม้หมดอย่างแน่นอน คืนวันต่อมา มีชาวบ้านฝันเห็นพระตาตน อยู่ในบ่อลึกและบอกว่าหนาวมาก แต่ผู้ฝันจำไม่ใด้ว่าอยู่บ่อไหนและได้เล่าให้คนในหมู่บ้านฟัง แต่ไม่มีใครเชื่อ เพราะผู้ฝันเป็นเด็ก พอตกเย็นวันหนึ่งชาวบ้านได้มาตักน้ำที่บ่อน้ำภายในวัด มองลงไปเห็นหลวงพ่อพระตาตน ลอยน้ำอยู่คิดว่าคงเป็นกบ เมื่อยกถังน้ำขึ้นมาก็เห็นหลวงพ่อพระตาตน ลอยอยู่ในถังน้ำ จึงบอกชาวบ้านให้มาดูและได้อาราธนาหลวงพ่อพระตาตน มาไว้ที่เดิม ความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารต่างๆมากมาย ทำให้มีผู้คนเลื่อมใสศรัทธามาก และส่วนมากชาวบ้านจะมาบนบานในเรื่องประสงค์จะได้บุตรธิดาและอื่นๆอีกหลายประการ ส่วนผู้ที่ได้รับผลสมปรารถนาตามที่ได้บนบานต้องมาแก้บนตามที่บนบานเอาไว้ ส่วนการแก้บน หลวงพ่อพระตาตน คือ การบวชอยู่ชั่วคราวหรือตลอดไป ถือเป็นการบนที่ได้กุศลอย่างสูง.
Discussion about this post