วันที่20 เมษายน 2566 นายจำเนียร บุญแก้ว ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 (ภาคใต้) จังหวัดนครศรีธรรมราช นำคณะเจ้าหน้าที่ กฟภ.และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตำบลเกาะปันหยี อ.เมืองพังงา ติดตามโครงการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้พื้นที่เกาะปันหยี ด้วยการวางระบบเคเบิลใต้น้ำ 33 kV จากบ้านท่าด่านถึงเกาะปันหยี ระยะทาง 7.2 วงจร-กม พร้อมก่อสร้างอาคารควบคุมการจ่ายไฟ และระบบจำหน่ายแรงสูง 33 kV ระยะทาง 0.58 วงจร-กม. (ชนิด Twisted Cable ที่เป็นฉนวนอย่างดี ป้องกันมลภาวะ และสร้างทัศนียภาพที่สวยงาม) และระบบจำหน่ายแรงต่ำ ระยะทาง 2.52 วงจร-กม. พร้อมติดตั้งหม้อแปลงจำหน่าย 500 kVA จำนวน 2 เครื่อง (เป็นหม้อแปลงชนิดพิเศษสามารถป้องกันมลภาวะไอเกลือจากน้ำทะเล) โดยได้ดำเนินโครงการแล้วเสร็จจ่ายไฟให้ชาวบ้านได้ใช้แล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยนำสื่อมวลชนชมจุดที่วางสายเคเบิ้ลลงใต้น้ำ ทุ่นสัญญานแนวสายเคเบิ้ลใต้ทะเล จุดติดตั้งหม้อแปลงและอาคารควบคุมการจ่ายไฟบนเกาะปันหยี พร้อมพบปะพูดคุยกับชาวบ้านบนเกาะ ที่ทุกคนต่างบอกว่าขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ทำให้ชาวบ้านได้ใช้ไฟฟ้าในราคาถูกลงมากกว่าเดิมถึง2เท่าตัว
นายจำเนียร บุญแก้ว เปิดเผยว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA มีภารกิจในการจัดหาและให้บริการพลังงานไฟฟ้า ดูแลผู้ใช้ไฟฟ้าครอบคลุมพื้นที่ 74 จังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และ สมุทรปราการ) ร่วมขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและในพื้นที่ชนบทให้มีไฟฟ้าใช้ครบทุกครัวเรือน เกาะปันหยี เป็นเกาะเล็กๆ ห่างไกลจากภาคพื้นดิน แต่เดิมมีการใช้ไฟฟ้าโดยเครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้วยน้ำมันดีเซล ขนาด 120 kW. จำนวน 4 เครื่อง (เป็นของ PEA จำนวน 2 เครื่อง และของ อบต.เกาะปันหยี จำนวน 2 เครื่อง) ค่าไฟหน่วยละ 18 บาท และในปี 2562 คณะรัฐมนตรีมีมติให้ PEA ดำเนินโครงการขยายเขตติดตั้งระบบไฟฟ้าให้เกาะปันหยี จังหวัดพังงา วงเงินงบประมาณ 221 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนบนเกาะ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องในพื้นที่ โดย PEA ได้ดำเนินโครงการแล้วเสร็จพร้อมจ่ายไฟเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นการเพิ่มขีดความสามารถและความมั่นคงของระบบไฟฟ้าบนเกาะปันหยี ให้ประชาชน 354 ครัวเรือน รวมประชาชนกว่า 4,000 คน รวมถึงผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวมีไฟฟ้าใช้ได้อย่างเพียงพอ ระบบไฟฟ้ามีคุณภาพที่เชื่อถือได้ มีเสถียรภาพ และสามารถรองรับปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตได้ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟฟ้ารายเดือน จากเดิมเฉลี่ยหน่วยละ 18 บาท เหลือหน่วยละ 4.72 บาท ทำให้ประชาชนบนเกาะปันหยีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล
น.ส.สุภารัตน์ คงเดิม 10/2 ม.2 ต.เกาะปันหยี กล่าวว่า โครงการขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้พื้นที่เกาะปันหยีนี้เป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้พ่อแม่พี่น้องชาวเกาะปันหยีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการลดค่าใช้จ่ายในแต่ละครัวเรือนที่แต่เดิมต้องใช้ไฟฟ้าหน่วยละ13-16 บาท ทำให้ค่าไฟฟ้าแต่ละเดือนสูงมาก ต้องแบ่งจ่ายให้กับทาง อบต.เกาะปันหยีเดือนละ2ครั้ง ต้องขอขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และรัฐบาลชุดนี้ที่ช่วยอนุมัติโครงการ และหน่วยงานกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ รวมถึงหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง และอีกคนหนึ่งไม่ไม่พูดถึงไม่คือ คุณกันตวรรณ ตันเถียร อดีต สส.จังหวัดพังงา ที่ช่วยติดตามประสานงานและแก้ปัญหาข้อติดขัดต่างๆจนโครงการสำเร็จ สร้างรอยยิ้มให้ชาวเกาะปันหยีเป็นอย่างมาก
นางเจริญศรี สำเภาทอง เจ้าของร้านขายของที่ระลึก กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ขยายเขตจ่ายไฟมาให้ชาวบเกาะปันหยีได้ใช้ หลังจากรอมาอย่างยาวนาน ส่วนค่าไฟจากเดิมเดือนละกว่า4,000-5,000บาท ลดเหลือเดือนละ800-1,200 บาท
ด้านเจ้าของร้านน้ำพริกกุ้งเสียบธัญวลัย กล่าวต่อว่า จากเดิมจ่ายค่าไฟเดือนละเกือบ6,000 บาท ปัจจุบันเหลือเดือนละ1,200 บาท ต้องขอขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ทำให้ชาวบ้านได้ลดภาระจากค่าใช้จ่ายเรื่องไฟฟ้าลงได้เยอะมากเลย
นายเจริญ ศรีทอง เจ้าของร้านขายของที่ระลึก เปิดเผยว่าค่าไฟฟ้าปัจจุบันลดลงจากเดิมมากกว่าครึ่งหนึ่ง และสามารถเปิดใช้ได้ตลอด24ชั่วโมง ต้องขอขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ได้ขยายเขตจ่ายไฟฟ้ามายังเกาะปันหยี และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันผลักดันโครงการนี้มานานกว่า10 ปี
Discussion about this post