
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมานายมงคลกิตติ์ หรือ “เต้” สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เบอร์ 42 พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรค นายศยุน ชัยปัญญา เลขา ธิการพรรค และคณะได้ลงพื้นที่ จ.กระบี่ โดยได้แวะพักถ่ายรูปเซลฟี่ กับปฎิมากรรมปูดำแลนมาร์คจุดเชคอินถ่ายรูปขึ้นชื่อ เขตเทศบาลเมืองกระบี่ จ.กระบี่ จากนั้นได้เดินข้ามถนนไปยังตลาดปูดำ เพื่อขอคะแนนเสียงจากแม่ค้า พ่อค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายตลาด ให้กับพรรคไทยศรีวิไลย์ เนื่องจากพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่ได้ส่ง ส.ส.เขตใน จ.กระบี่ โดยได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นพรรคขนาดกลางที่สู้ด้วยนโยบายในการซื้อใจประชาชน เน้นลงพื้นที่จริงใจไม่ซื้อเสียง ไม่ดูด ส.ส.ไม่ซื้อ ส.ส.และไม่เอา ส.ส.ขายตัวมาอยู่ด้วย จึงมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้ ส.ส.ทั้ง ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ ไม่น้อยกว่า 25 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม หากตนได้เป็น ส.ส.อีกครั้งจะเข้าร่วมกับรัฐบาลแน่นอนเพราะต้องเข้ามาทำตามนโยบาย เช่น เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยเดือนละ 3,000 บาท เบี้ยผู้สูงอายุ 5,000 บาท เบี้ยคนจน เบี้ยคนพิการ ค่าป่วยการ อสม.อปพร. เดือนละ 3,000 บาท โดยนำเงินมาจากการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษกาสิโน นำเงินรายได้มาจัดสวัสดิ การรัฐโดยไม่ต้องมาขูดรีดภาษีกประชาชน และไม่ต้องกู้เงินเป็นหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ยืนยันว่าพรรคไทยศิวิไลย์จะร่วมเป็นรัฐบาลแน่นอน
หน.พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวด้วยว่า จังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว ในแต่ละปีสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างมหาศาล แต่ในช่วงวิกฤตโควิด 19 ที่ผ่านมา ผู้ประ กอบการได้รับผลกระทบอย่างหนักบางรายถึงกับต้องเลิกกิจการ หากตนได้รับเลือกจะเข้าไปทำหน้าที่อีกครั้ง จะหาเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้กลับมาประกอบกิจการต่อได้ และพบว่าขณะนี้การท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ กำลังคึกคัก ส่วนประชาชนฐานราก จะอัดฉีดเงิน 1.5 แสนบาทต่อครอบครัว
นอกจากนี้ ส.ส.เต้ ยังกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ค่าไฟแพงอยู่ในขณะนี้เนื่องจากทางรัฐบาลมีการสำรองไฟมากเกินไป และนอกจากนี้เตรียมหาทางซื้อหุ้น ปตท.คืนเพื่อให้กลับมาเป็นของรัฐอีกครั้งและจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 20 บาท ส่วนเบนซิน ไม่เกิน 25 บาท ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ปตท.รัฐจะถือหุ้นถึง 51% แต่การดำเนินกิจการไม่ได้คำนึงถึงประชาชนแม้แต่น้อย
ต่อคำถามที่ว่า หากว่าพรรคศรีวิไลย์ ได้รับเลือกกลับเข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.อีกครั้งจะจับมือกับพรรคที่จะมีการแก้กฎหมาย 112 หรือไม่ ทาง ส.ส.เต้ ตอบว่าตนและพรรคศรีวิไลย์ พร้อมที่จะจับมือกับทุกพรรค แต่จะไม่มีการร่วมขอแค่กฎหมาย 112 อย่างแน่นอน เพราะไม่มีความจำเป็นและเหตุผลใดๆที่จะต้องแก้ และตนคิดว่าแม้แต่ประชาชนธรรมดาก็ยังมีกฎหมายคุ้มครอง แล้วทำไมต้องแก้ กม.112 และจากที่ได้ลงพิ้นที่ภาคใต้ กระแสตอบรับของพรรคฯดี ถึงแม้ว่าบางจังหวัดไม่ได้ส่ง ส.ส.เขตลงรับเลือกตั้งก็ตามเหมือนอย่างจังหวัดกระบี่.
Discussion about this post