
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 26 เมษายน 2566 หน้าสวนอาหารฮ่มไม้ปลายนา
ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ นายธนาวุฒิ หอมขจร ประธาน ชมรมศิษย์เก่าแม่โจ้จังหวัดแพร่ ได้จัดงานรดน้ำดำหัวศิษย์เก่าอาวุโสและสังสรรค์ศิษย์เก่าแม่โจ้จังหวัดแพร่ ประจำปี 2566
สำหรับบรรยากาศของงาน มีศิษย์เก่า หลากหลายรุ่นมาร่วมกิจกรรมมากมาย ทำให้บรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก บรรดาศิษย์เก่าต่าง จับกลุ่มเล่าประสบการณ์ ของแต่ละท่านละคนเล่าสู่กันฟัง และมีการพูดคุยถึงกิจกรรมของงานและงานที่จะทำสร้างสรรค์สังคมให้กับมวลสมาชิกของชมรม
นายธนาวุฒิ หอมขจร ประธาน ชมรมศิษย์เก่าแม่โจ้จังหวัดแพร่ ได้กล่าวปิดงานและต้อนบรรดาศิษย์เก่าแม่โจ้จังหวัดแพร่ ว่า ด้วยที่ผ่านมา เราไม่ได้พบปะกันมาหลายปี ซึ่งนับว่าเป็นความ ต้องการของบรรดาพี่ๆน้องๆศิษย์เก่าทุกคนที่อยากจะพบปะ สังสรรค์และรดน้ำดำหัวให้กับผู้อาวุโสซึ่งในวันนี้ก็เป็นโอกาสดีที่ผมพร้อมคณะทำงานได้ร่วมกันรังสรรค์จัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อให้กับทุกท่านได้พบปะสังสรรค์และได้เล่าเรื่องราวความเป็นอยู่ของแต่ละท่านละคนให้สู่กันฟังซึ่งผมในฐานะผู้ในฐานะคณะผู้จัดงานก็มีความยินดีเป็นอย่างมาก เราได้เตรียมงานประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาทำให้งานออกมาในระดับนี้ในส่วนการต้อนรับกลับสู่อาจจะขาดตกบกพร่องไปก็ขอน้อมรับเพื่อปรับปรุงแก้ไข
และขอแจ้งข่าวว่าทางชมรมฯ จะมีกิจกรรมในช่วงปลายปีนี้ซึ่งจะมีการปั่นจากเบตงถึงเชียงรายโดยจะแวะมาที่แม่โจ้แพร่ด้วยซึ่งในเรื่องนี้ก็มีการระดมทุนเพื่อจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยจึง ก็ขอฝากบรรดาพี่ๆน้องๆร่วมสนับสนุนสนับสนุนในการระดมทุนในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
สำหรับบรรยากาศในงาน มีการรดน้ำดำหัวผู้อาวุโสอย่างเช่น คุณพี่สุนทร หอมขจร พี่วิโรจน์ พอจิตและคุณพี่สาโรจน์ ศุภศิริ และอีกจำนวนมากทำให้บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคักครึกครื้นเพราะ มีบรรดาศิษย์เก่ารุ่นพี่รุ่นน้องได้มาพบปะกัน มีการทักทายและดนตรีเฮฮาตามศิษย์เก่าแม่โจ้จังหวัดแพร่ Cowboy Phrae และยังมีการมอบเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้อย่างเช่น คุณสาโรจน์ ศุภศิริ จำนวน 10,000 บาทและ คุณพี่วิโรจน์ พอจิต จำนวน 5,000 บาทและมีผู้ให้การสนับสนุนงานทั้งหมดอีกมากมายซึ่งไม่สามารถจะเอ่ยชื่อได้หมดซึ่งในเรื่องนี้ทางคณะทำงานก็ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนของการสนับสนุนกิจกรรมของชมรมเป็นอย่างมาก โดยมีคุณพี่สุนทร หอมขจร ให้พรกลับ พี่ๆน้องๆศิษย์เก่าที่มาร่วมงานรดน้ำดำหัวในครั้งนี้ด้วย
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
Discussion about this post