เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 3 พ.ค.66 ร.ต.ท.เรืองวิทย์ ทัศนาลัย รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุจาก ร.ต.อ.วรศักดิ์ คลองงาม รอง สว.(ป.) สภ.เมืองราชบุรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการสายตรวจรถจยย. สภ.เมืองราชบุรี ตรวจพบกลุ่มวัยรุ่นพกพาอาวุธ จำนวน 3 กระบอก ที่บริเวณลานจอดรถหน้าร้านนั่งดื่มแห่งหนึ่งในตัวเมืองราชบุรี อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ พร้อมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบจนท.ตำรวจชุดปฏิบัติการสายตรวจฯ ควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นไว้ทั้งหมด 3 คน พร้อมอาวุธปืนยี่ห้อ SMITE & WELLSON ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 15 นัด, อาวุธปืนยี่ห้อ SIL CHAMPION .45 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 7 นัด, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุนปืน 10 นัด และ รถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ แอททาค สีขาวทะเบียน ขก 8768 อุดรธานี 1 คัน จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 ไปสอบสวนที่สภ.เมืองราชบุรี
โดยก่อนหน้านี้ จนท.ชุดปฏิบัติการสายตรวจฯ ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ให้เข้มงวดตรวจตราสถานที่เป้าหมาย ที่มีความเสี่ยงเกิดเหตุอาชญากรรม เนื่องจากอยู่ในช่วงใกล้เลือกตั้ง โดยช่วงออกตรวจสถานที่เกิดเหตุ ได้สังเกตความผิดปกติและท่าทีพิรุธของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 คน จึงขอตรวจค้นจนพบว่า นายวสันต์ อายุ 22 ปี ชาวอ.เมือง พกอาวุธปืนเหน็บไว้ที่เอวด้านขวา ส่วนนายสมพงษ์ อายุ 20 ปี ชาวอ.เมือง พกอาวุธปืนเหน็บไว้ที่เอวด้านขวา และนายณภัทร อายุ 21 ปี ชาวอ.เมือง นั่งอยู่ในรถยนต์เก๋ง โดยซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ใต้เบาะรถ
ซึ่งจากการสอบสวนทั้งหมดให้การว่า เตรียมเอาอาวุธปืนมาเคลียร์ปัญหากับคู่อริ เนื่องจากมีปัญหากระทบกระทั่งกับทางคู่อริหลายครั้ง จนล่าสุดได้เห็นข้อความทางเฟสบุ๊ก จึงนัดรวมตัวกันมาดักเจอคู่อริบริเวณลาดจอดรถหน้าร้านที่กลุ่มคู่อริมาเที่ยว แต่ระหว่างยื่นรอกลุ่มคู่อริออกจากร้านดังกล่าว มีจนท.ตำรวจ สายตรวจขี่รถจยย.ผ่านมาจนหลบไม่ทัน จึงถูกจนท.ตำรวจเข้าตรวจค้นและถูกควบคุมตัวเสียก่อนจะได้เจอคู่อริ
เบื้องต้นทางจนท.ตำรวจได้ยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ กับ นายวสันต์ และ นายสมพงษ์ ส่วน นายณภัทร ถูกตั้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไว้ในที่เมือง ชุมชนหรือที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะนำตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 คน ฝากขังกับศาลในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นความดีความชอบของทางจนท.ตำรวจ ชุดปฏิบัติการสายตรวจรถจยย. สภ.เมืองราชบุรี ทุกนาย ที่มีไหวพริบปฏิภาณในการสังเกตเห็นความผิดปกติ และท่าทีพิรุธของกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 คน จนนำไปสู่การจับกุมก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง ถึงขั้นเลือดตกยางออกหรือเสียชีวิต ถือเป็นปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม ที่จนท.ตำรวจทุกสถานีน่าเอาแบบอย่าง
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี
Discussion about this post