วันที่ 4 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดรัตนานุภาพ ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชา การกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำ นวยการศูนย์ประสานงานโครง การอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางลงพื้นที่ เพื่อถวายภัตตา หารเพลแก่พระสงฆ์ ร่วมกับส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหง ปาดี จังหวัดนราธิวาส เนื่องในวันพระประจำเดือน พฤษภาคม 2566 ตามโครงการเสริมสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง กิจกรรมการสนับสนุนภัตตาหารแด่พระสงฆ์ในพื้นที่ล่อแหลม เสี่ยงภัย ไม่สามารถบิณฑบาตได้ พร้อมทั้งสอบถามความเป็นอยู่ของพระสงฆ์ และการปฏิบัติศาสนกิจ ตลอดจนได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยง ร่วมกับพี่น้องประชา ชนในพื้นที่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น โดยมี พันเอกภาคิน เกื้อกูล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนาประจำตำบล เข้าร่วมในกิจกรรม
จากนั้น พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครง การอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะ ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ นางประทุม นักทอง หรือ”ป้านิ่ม” อายุ 55 ปี ประชาชนได้รับบาดเจ็บสาหัส สูญเสียขาทั้งสองข้าง จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดในสวนยางพาราพื้นที่หมู่ 2 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ต่อมาหลังทำการรักษาเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และได้รับการใส่ขาเทียม ซึ่งปัจจุ บันป้านิ่มสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ปรับสภาพเข้ากับขาเทียมทั้ง 2 ข้างได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญจิต ใจของป้านิ่มแข็งแกร่งมาก แม้จะเผชิญกับเหตุการณ์ที่รุนแรง แต่ป้านิ่มกลับบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงฝันร้ายที่ตื่นมาก็หายไปแล้ว ทุกวันนี้พอใจกับความสุขที่ได้อยู่ดูลูกหลานเติบโต และชีวิตในปัจจุบัน
ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครง การอันเนื่องมาจากพระราชดำริกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาร่วมทำบุญ ถวายเพลพระ ร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เนื่องในวันพระ พร้อมทั้งได้มาพบปะพี่น้องประชาชนไทยพุทธ เป็นการส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และสานสัมพันธ์สังคมพหุวัฒนธรรมพื้นที่ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง และสร้างขวัญกำลังใจ ให้พี่น้องประ ชาชนอยู่ในพื้นที่ รวมถึงเพื่อให้ประชาชนไทยพุทธ ไม่อพยพ หรือย้ายถิ่นฐานเพิ่ม รวมทั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจ ให้พี่น้องประชา ชนไทยพุทธ และประชาชนไทยมุสลิม อาศัยอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม และที่สำคัญ เพื่อเป็นการมอบความห่วงใยสร้างความสัมพันธ์ อันดีระหว่างเจ้าหน้า ที่รัฐ กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้นและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้พี่น้องประชาชนในชุมชนมีขวัญ และกำลังใจดีขึ้น ลดช่องว่าง สร้างความเข้าใจ และขจัดปัญหาความน้อยใจระหว่างพี่น้องประชา ชนไทยพุทธ และประชาชนไทยมุสลิมในพื้นที่ “แตกต่างแต่ไม่แตกแยก ” ส่งเสริมการสร้างสภาพแวดดล้อมชุมชนให้น่าอยู่ เพื่อไม่ให้สมาชิกในชุมชนอพยพถิ่นฐานออกนอกพื้นที่ ตลอดจนเป็นการ สร้างความรัก และความสามัคคี ปรองดองให้เกิดขึ้นในชุมชน “มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” เพราะเรายืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยผืนเดียวกัน
โดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้น้อม นำยุทธศาสตร์พระราชทาน “ เข้า ใจ เข้าถึง พัฒนา ” แนวทางตามโครงการพระราชดำริ เป็นการปฎิบัติตามแนวทางยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง โดยมุ่งหวังมิให้เกิดการละทิ้งถิ่นฐานของประ ชาชนในพื้นที่ จชต. ส่งเสริมการประกอบอาชีพของชุมชนไทยพุทธให้สามารถประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูตนเอง และครอบ ครัว รวมถึงการเข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ อาทิเช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อการพึ่งพาตนเอง สร้างแรงจูงใจเพื่อให้ประชาชนกลับมายังถิ่นฐานเดิม โดยโครงการดูแลชุมชนไทยพุทธ ของศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มี 3 โครงการ ได้แก่
1.โครงการฟื้นฟูไทยพุทธเสริมสร้าง เพื่อเข้าไปดูแล ส่งเสริม สนับสนุนขั้นต้น ให้แก่ ประชาชนในพื้นที่ในการประกอบอาชีพทาง การเกษตร และการเลี้ยงสัตว์ โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานราช การในพื้นที่ ลงพื้นที่สอบถามความต้องการในการประกอบอาชีพเพิ่มเติม ทั้งด้านการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ และความต้องการอื่นๆ ของพี่น้องประชาชนในชุมชนไทยพุทธ ในพื้นที่ จชต. เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างความเชื่อมั่นเกิดความรู้สึกปลอด ภัยในพื้นที่ สร้างความเข้มแข็งขึ้นในชุมชน เกิดสำนึกรักถิ่นฐานบ้านเกิด ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ละทิ้งถิ่นฐาน 2. โครงการพัฒนาศาสนสถาน เพื่อการบูรณปฏิสัง ขรณ์ ซ่อมแซม วัด สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ ที่ชำรุดทรุดโทรมให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรงเพื่อใช้ในการปฎิบัติศาสนพิธีได้ 3. โครง การสนับสนุนภัตตาหารแด่พระสงฆ์ในพื้นที่ชุมชนล่อแหลม / เสี่ยงภัยไม่สามารถออกบิณฑบ าตได้ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพระสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่ล่อแหลม / เสี่ยงภัย ให้มีภัตตาหารที่เพียงพอ สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ และไม่ละทิ้งวัด.
Discussion about this post