เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 จากกรณีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค ใช้ชื่อว่า Tong Saeyang โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ข้อความว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่ในโซเชียลขอความเป็นธรรมให้เเก่ครอบครับผมด้วย เมื่อวานนี้เวลา 15.30น. น้องชายพกปืนเเก๊ปจะเข้าไปสวน ขับรถ มอเตอร์ไซค์ ไปเจอ ตำรวจชุด ปปส. เเอบซุ่มอยู่ข้างถนนลาดยาง ทางทิศเหนือใกล้กับหมู่บ้านสบเป็ด เเกเลยเลี้ยวรถกลับมา จังหวะนั้นได้มีรถตำรวจอีกคัน ที่วิ่งสวนมาชนกับมอเตอร์ไซร์เเก ทำให้น้องกระเด็นตกข้างทาง ตร.บอกค้นเจอยาบ้า 2 เม็ดพร้อมกับปืนเเก๊ป 1กระบอก ผม มองว่า ตร. ทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่า เเค่เห็นพกปืนเเก๊ปเเค่กระบอกเดียว ถึงขั้นต้องชนเลยเหรอ ตอนนี้เเกถูกส่งตัวไปรักษาที่ โรงพยาบาลลำปาง เนื่องจากเลือดคั้งในสมองเยอะ เเต่ตอนนี้หมอบอกว่าไม่สามารถผ่าตัดได้ เนื่องจาก เลือดออก เยอะ ผ่าก้อไม่น่ารอด เลยได้เเต่นั่งรอปฎิหานเเละรอพาเเกกลับบ้าน เเกยังมีครอบครัวของเเกที่ต้องดูเเล ลูก ทั้ง 3คน เเละเมียจะอยู่อย่างไร พี่น้องคนไหนมีลูบทางที่จะช่วยโปรดช่วยด้วย ผมไม่อยากให้น้องชายต้องตายฟรีคับ หวังว่าคงได้รับความเป็นธรรมคับ”
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านสบเป็ด ตำบลผาตอ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ที่เกิดเหตุเป็นถนนลาดชันลงเขา เป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างอำเภอท่าวังผาไปยังอำเภอสองแคว และมีทางเชื่อมเข้าหมู่บ้าน บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นร่องน้ำคอนกรีต
เสริมเหล็กข้างถนนมีความลึกประมาณ 2 เมตร ด้านข้างถนนมีเสาไฟส่องสว่าง จุดเกิดเหตุเป็นถนนฝั่งมุ่งหน้าไปทางอำเภอท่าวังผา
โดยชาวบ้านและญาติของนายไซย แซ่ย่าง อายุ 36 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในวันเกิดเหตุ นายไชย ได้ขับรถออกจากบ้านไปโดยสะพายปืนแก็ปขับออกไปเพื่อไปหายิงสัตว์ป่า คาดว่าระหว่างทางขับไปเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าวังผา เกิดตกใจกลัวจังเลี้ยวรถกลับแล้วขับมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ แล้วมีรถอีกคันจอดอยู่บริเวณทางเข้าหมู่บ้าน ขับรถอีกคันพุ่งเข้าไปชน โดยมีเด็กอายุประมาณ 10 ขวบ และชาวบ้านที่นั่งเย็บผ้าอยู่เห็นเหตุการณ์ โดยต่างมองว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจขับรถชน ปัจจุบันนายไชย ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง จากอาการมีเลือดคลั่งในสมอง อยู่ในการดูแลของแพทย์ อาการสาหัสยังไม่รู้สึกตัว
ด้านพ่อของนายไซย ลูกผมถือปืนแก็ปขับรถออกไป ขับรถลงเนินลงมา แล้วก็มีรถอีกคันหนึ่งขับรถแล้วถอยหลังมาจอด แล้วก็ขับรถออกไปชนลูกผมที่บริเวณเสาไฟ ส่วนอาการตอนนี้หมอบอกว่ารักษาไม่ได้แล้ว
ด้านน้องชายของนายไซย เล่าว่า พี่กำลังออกไปจะไปล่าสัตว์ป่า โดยขับรถถือปืนแก็ปออกไป แล้วขับไปเจอตำรวจอีกชุดที่อยู่ข้างบน เกิดความกลัวจึงเลี้ยวรถกลับขับหนีมา แล้วมีเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งขับรถเข้าไปชน เมื่อถามว่าเรารู้ไหมว่าพี่เสพยา น้องชายของนายไชยตอบว่ารู้ครับ
ซึ่งทางญาติของนายไซย กล่าวว่า น้องคนนี้เป็นคนติดยาก็เข้าใจ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่นำไปบำบัดรักษาก็เข้าใจอยู่ แต่อันเนี้ยที่พ่อต้องการเรียกร้องค่าเสียหายเพราะว่ามองว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ถึงว่าจะติดยาก็ไม่ถึงกับต้องขับรถชนให้ตาย นี่ก็รู้อยู่แล้วว่าแกขับรถพุ่งลงมาแล้วเราไปดักมันอันตรายเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่อันนี้เจ้าหน้าที่เห็นน้องวิ่งมาก็วิ่งเข้าไปชนเลย
โดยสรุปแล้วที่ทางญาติของนายไซย ออกมาเรียกร้องต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเรียกร้องค่าเสียหายเยียวยาเป็นเงิน เนื่องจากหากนายไซยเสียชีวิต จะไม่มีใครดูแลลูกของนายไชยที่กำลังเล็ก 3 ชีวิต
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปขอคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สะดวกในการให้สัมภาษณ์ เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ แต่ได้ให้ข้อมูลว่า วันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวน 8 นาย โดยใช้รถของทางราชการเป็นรถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน ได้ออกติดตามหาข่าวจากการขยายผลจับยาบ้าจำนวนล้านกว่าเม็ดในพื้นที่อำเภอท่าวังผา และได้ติดตามหาข่าวโดยติดตามสะกดรอยหญิงรายหนึ่งซึ่งได้รับรายงานทางการข่าวว่า ได้ลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดติดชายแดนเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างติดตามหญิงต้องสงสัยดังกล่าวผ่านมาใกล้หมู่บ้านสบเป็ดซึ่งมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด มีชายรายหนึ่ง ทราบในเวลาต่อมาชื่อนายไซย แซ่ย่าง ขับรถถือปืนแก็ปขับมาเลนสวนรถเจ้าหน้าที่แต่เมื่อเห็นรถเจ้าหน้าที่ นายไซยกับขับเลี้ยวรถหนีรถเจ้าหน้าที่ทั้งที่เจ้าหน้าที่ยังไม่เรียกตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขับไล่และตระโกนบอกให้จอด แต่นายไซยไม่จอดได้ขับรถหนี เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้รถอีกคันเข้าสะกัด รถอีกคันจึงขับเข้าไปขวางเลน แต่นายไซยไม่จอดจึงเกิดการเฉี่ยวชนบริเวณด้ารหน้ารถ ทำให้รถ
จักรยานยนต์ของนายไซยแฉลบพรุ่งไปชนเสาไฟฟ้า ส่วนตัวนายไซยกระเด็นตกไปในร่องคูน้ำ ทำให้หัวไปกระแทกปูนพนังคูน้ำแต่เนื่องจากไม่ได้สวมหมวกนิรภัยทำให้เลือดคลั่งในสมอง
จากการตรวจค้นพบปืนแก็ปยาวพร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 1 กระบอก และเมื่อตรวจค้นในถุงย่ามที่นายไซยสะพายมา พบยาบ้า จำนวน 2 เม็ด ซุกซ่อนห่อด้วยถุงพาสติกซ่อนไว้ในถุงยาเส้นในถุงย่ามที่นายไซยสะพายมา
โดย พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวหลังลงพื้นที่ว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.ท่าวังผา วันนี้ก็มาดูที่เกิดเหตุและมาพบ พ่อผู้เสียหาย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้ให้ทาง สภ.ท่าวังผา รายงานข้อเท็จจริง โดยจะได้ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาเพื่อจะได้ให้ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เนื่องจากขณะนี้ผู้เสียหายได้ถูกนำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง ส่วนพนักงานสอบสวนในวันที่เกิดเหตุก็ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนในทางคดีนั้นกระผมหลังจากตรวจสอบจะได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก็เลยมาแจ้งให้กับทางญาติผู้เสียหายว่าทางตำรวจภูธรจังหวัดน่านไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็ไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว กลับเหตุการณ์ที่ตำรวจได้ทำการจับกุมหรือกระทำการที่ไม่ถูกต้อง ทางตำรวจเราก็มีโทษทางวินัยอยู่แล้ว ในส่วนของการดำเนินคดีเราก็มีกระบวนการและขั้นตอนอยู่แล้ว เราจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ ก็ขอฝากทุกฝ่ายและญาติพี่น้องว่าครับผมลงมาดูเรื่องนี้โดยตรงเลย ก็อยากให้เข้าใจถ้าหากมีอะไรก็ให้มาแจ้งผมโดยตรง หลังจากนี้จะได้ตรวจสอบหากพบว่ามีการกระทำผิด จะได้ดำเนินการทางวินัยต่อไป
คืบหน้า ล่าสุดนายไซย แซ่ย่าง ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 14.00 น. ที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง จากการสอบถาม นางวัชรี แซ่ย่าง ภรรยาผู้เสียชีวิตแจ้งว่า จะดำเนินการส่งศพนายไซย แซ่ย่าง ไปฝากเก็บไว้ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลน่านก่อน ยังไม่ดำเนินการหรือประกอบพิธีใดๆ ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมก่อน โดยจะไปทวงถามที่สถานีตำรวจภูธรท่าวังผา หากไม่ได้รับความยุติธรรมจะทำการแห่ศพประท้วงเรียกร้องความยุติธรรม
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
Discussion about this post