ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ธรรมเสน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังทราบว่าเกิดพายุฤดูฝนรุนแรงขึ้นในบางพื้นที่ติดต่อกัน จนทำให้บ้านเรือนของประชาชนเสียหายหลายหลังคาเรือน และต้นลำไยที่เกษตรกรปลูกไว้ล้มเกือบยกสวน ซึ่งทางอบต.ธรรมเสนและเกษตรอำเภอเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเเร่งด่วน โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางอำไพ วงษ์เส็ง อายุ 68 ปี เกษตรกรผู้ปลูกลำไย เปิดเผยว่า ตนยึดอาชีพปลูกลำไยบนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ มานานกว่า 9 ปี สร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัวเป็นอย่างดี
กระทั่งเมื่อช่วงบ่าย ตนเห็นพายุหมุนเคลื่อนตามร่องลมมาจากทางทิศใต้อย่างรุนแรง พาดผ่านเข้ามาในสวนลำไย ตนจึงรีบวิ่งหนีเข้ามาใต้ถุนบ้านเพื่อความปลอดภัย เมื่อหันไปดูที่สวน พบว่าแรงพายุทำให้ต้นลำไยล้มทั้งต้นตามแนวลม บางต้นหักโค่น บางต้นล้มแบบถอนรากถอนโคน รวมจำนวน 32 ต้น เหลืออยู่เพียง 10 ต้น นอกจากนั้นยังพบว่าหลังคาคอกวัวที่มุงด้วยสังกะสีปลิวหลุดไปหลายแผ่น
นางอำไพ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ตนเกิดมายังไม่เคยพบเจอพายุหมุนลักษณะนี้ในพื้นที่มาก่อน แต่พายุหมุนลูกนี้ สร้างความเสียหายและเสียใจให้ตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้นลำไยที่ตนประคบประหงมดูแลมานานกว่า 9 ปี ต้องหักโค่นไปต่อหน้าต่อตา หนำซ้ำเงินที่ลงทุนที่ใช้บำรุงต้น ทั้งปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี และฮอร์โมนต่างๆ ที่ใส่ไปก่อนหน้านี้เกือบ 10,000 บาท ทำให้ตนต้องอยู่ในภาวะขาดทุน และด้วยอายุที่มากขึ้น จะให้ตนย้อนกลับไปลงทุนปลูกลำไยเลี้ยงชีพใหม่อีกครั้ง คงจะไม่ไหว ไม่เหลือกำลังแล้ว
ด้าน นางน้ำอ้อย บุญราช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ธรรมเสน เปิดเผยว่า ทันทีที่พายุสบงลงตนได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พบว่า มีพื้นที่ปลูกลำไยได้รับความเสียหายจำนวน 2 แปลง และมีบ้านเรือนถูกพายุพัดทั้งกระเบื้องและสังกะสีมุงหลังคาปลิว รวม 30 หลังคาเรือน สร้างความหวาดกลัวให้กับลูกบ้านเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง เนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากนั้นพายุยังได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรืองประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง คือ หมู่ที่ 4 และ 10 แต่ที่เสียหายมากที่สุดคือหมู่บ้านของตน เนื่องจากคาดว่าเป็นจุดก่อตัวของพายุหมุน
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น ซึ่งทางกองบรรเทาสาธารณภัย อบต.ธรรมเสน ได้พื้นที่สำรวจความเสียหายและดำเนินการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือให้กับประชาชนแล้ว นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่เกษตร อ.โพธาราม ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในสวนลำไยของเกษตรกร เพื่อรวบรวมข้อมูลส่งจังหวัด แต่อย่างไรก็ตาม สนง.เกษตรไม่สามารถช่วยเหลือด้านเงินชดเชยได้ เนื่องจากทางจังหวัดไม่ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ จึงส่งเรื่องไปยัง อบต.ธรรมเสน เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป.
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี
Discussion about this post