วันที่ 30 พฤษภาคม 2566 นายมนตรี ใจกล้า อายุ 62 ปี 318 ม.8 ต.บะฮี อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร พร้อมด้วยชาวบ้านทั้งเด็กนักเรียน ผู้สูงอายุทั้งชายหญิง กว่า 50 คน มารวมตัวกันที่ถนนสาย ต.บะฮี อ.พรรณานิคม- ต.ต้นผึ้ง อ.พังโคน ซึ่งเป็นถนนลูกรังตลอดสาย ระยะทาง 8 กม. มีบ้านเรือน กว่า 2,000 หลัง ถนนสายนี้มีมานานแต่ไม่มีการพัฒนาปรับปรุงให้เป็นถนน คสล.หรือลาดยาง เคยขอไปที่ อบต.บะฮีก็อ้างว่าไม่มีงบ จึงเข้าไปขอที่ อบจ.สกลนคร ก็บอกว่าจะมาทำให้วันนั้นวันนี้ สุดท้ายก็เงียบ
จึงขอฝากไปถึงผู้ใหญ่ ท่านนายกประยุทธ์ ให้มาดูด้วยอย่าเพียงแต่พูดว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยชาวบ้านบอกว่าพวกตนก็เป็นคนไทย เสียภาษีเช่นกัน ภาษีที่เราเสียไปทำไมไม่นำกลับมาพัฒนาบ้านเรา แต่ไปช่วยประเศอื่นได้ ความเดือดร้อนของชาวบ้านกลับไม่แก้ไข ถนนในหน้าร้อนก็มีฝุ่นละออง หน้าฝนก็แฉะโคลนตม สินค้าการเกษตรนำไปสู่ตลาดก็ช้ำหมดเพราะถนนเป็นลอนคลื่น
นายผ้าแพมน เปมะทา อายุ 44 ปี ชาวบ้านนาล้อม ต.ต้นผึ้ง อ.พังโคน และชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ยังพาผู้สื่อข่าวไปดูโมเดลใหม่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ตั้งเสาไฟฟ้าผ่ากลางถนน ดังที่เห็นในภาพ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในเวลากลางคืน เพราะไม่มีไฟฟ้าแสงสว่างอบากให้มาแก้ไขให้ด้วย บ้านไหนที่ต้องการโมเดลนร้เอาไปใช้ได้ แต่ที่นี่ไม่ต้องการครับ
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร
Discussion about this post