นั่งชิวๆ ดูวิวหลักล้าน ทานอาหารหลักสิบ จิบชาบายใจ ที่นราธิวาส

เช้าๆ ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารแบบรับออกซิเจนล้วนๆ และรับอากาศบริสุทธิ์ สดชื่น พร้อมนั่งทานท่ามกลางธรรมชาติริมทุ่งนา มาชมเนินเขาบูโด แนะ นำมาเช้า เราจะมองเห็น หมอกที่ปกคลุมภูเขา ที่ค่อยๆหายไปกับเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น ..วิวหลักล้าน อาหารหลักสิบ ต้องที่ “สวนอาหารกลางนา” เป็นร้านอาหารพื้นบ้าน ที่มีความแตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป มีอาหารหลากหลายชนิด ทั้งอาหารพื้นบ้านที่ขายตอนเช้า แกงมัสมั่นเป็ด-ไก่บ้าน แกงเหลืองปลาช่อน นาสิดาแฆ ข้าวยำเคียงไข่ต้มไก่ทอด ผัดเผ็ดปลาดุก ข้าวชุดบูดูทุเรียน ผัก ปลาทอด ไข่ต้ม ข้าวเหนียวดำ-ขาว (ปูโล๊ะปาฆี) เคียงด้วยมะพร้าวนึ่ง ปลาทอด โรตีจานาอร่อยๆร้อนๆ ทานคู่กับ น้ำชาร้อน 3 ชั้น กาแฟสด ที่ขึ้นชื่อถึงความอร่อยกลมกล่อม และเป็นเอกลักษณ์สูตรของร้าน ส่วนมื้อเที่ยงจะมีอาหารอร่อยตามสั่ง แนะนำแกงส้มปลากระพงแบบเข้มข้น เปรี้ยว กำลังดี เนื้อหมักกระเทียมพริกไทย ต้มยำทะเล ต้มแซ่ป ซุปเนื้อ อาหารจานด่วน หรือจะทานแบบอีสานบ้านเฮา ก็มี ส้ม ตำ ยำ ลาบ น้ำตก ขนมจีน กินกับไก่ย่างหมักทรงเครื่อง ข้าวเหนียว แม่ครัวตำ สั่งตรง คนสระแก้วก็มา น่ะคะ…เมนูสุขภาพ สลัดไก่ซอสครีมมะนาว สำหรับคนลดน้ำหนักก็มี ..ที่สำคัญร้านนี้ เป็นร้านอาหารที่อร่อยทุกอย่าง และขายในราคาถูกมาก เพราะเจ้าของร้านบอกว่า วัตถุดิบส่วนใหญ่ จะรับมาจากคนในพื้นที่ในหมู่บ้านที่ปลูกเอง นำมาขายให้ที่ร้าน เป็ด ไก่ ก็เลี้ยงเอง จึงสามารถขายให้ได้ในราคาถูก..และช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านอีกทางหนึ่ง

สวนอาหารกลางนาเป็นร้านอาหารเปิดให้บริการ มา 2 ปีแล้ว จากเดิมหัวหน้าครอบครัวเป็นตำรวจ คุณ อับดืออายี เล่าว่าเนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบเมื่อ 13 ปีที่แล้ว จนทำให้ไม่สามารถเดินได้นั่งวีลแชร์ มา 13 ปี แต่ก็ไม่เคยคิดย่อท้อ 2 ปีแรกไม่รู้ว่าจะไปทางไหน มืดแปดด้านมีลูก 4 คน ครอบครัวเดือดร้อน ก็มีการเยียวยาของหน่วย มาช่วย และก็มีขวัญกำลังใจ ของเพื่อนๆและข้า ราชการ และญาติพี่น้อง สู้มาตลอด เพื่อที่จะให้ครอบครัวอยู่รอด เห็นว่า ภรรยาเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว เลยคุยกับคนในครอบครัว ลองเปิดร้านริมทุ่งนาดู ร้านบ้านๆ..ผลตอบรับก็ดีมาก ณ. ปัจจุบัน ขายได้ วันละ 20,000 – 30,000 บาทเลยทีเดียว

คุณนุไอนิง ดือราปู (กะเมาะ) เจ้าของร้านสวนอาหารกลางนา บอกว่า เอาวัตถุดิบสมุนไพรบ้านๆมาทำเองหมด เป็ดก็เลี้ยงเอง ถ้าเป็ดแก่คือ ต้องต้มเคี่ยว 5 ชั่วโมงมันจะได้รสชาดเข้าเนื้อ มันจะเปื่อย นุ่ม แต่ถ้าตัวอ่อน 2-3 ชั่งโมงเองก็ต้องใช้หัวกระทิ กะทิสดคั่นเอง ต้นเอง ทำเอง ทำวันต่อวัน เพราะหมดยังไม่ถึงเที่ยง ตื่นตี 3 ทำการปรุงแกง จะเป็นคนชิมเองทุกอย่าง ทำเอง ดูว่าเปื่อยหรือยัง ถ้าไม่เปื่อย จะเอามาออกขายไม่ได้ เดี่ยวลูกค้า ว่าแข็งทานไม่ได้ ต้องผ่านมือเราอย่างเดียว ต้องต้มกับไม้ฝืนอย่างเดียว เป็นคนชอบชิม ไปโน้นไปนี้ ก็ชอบกินที่ร้านอื่น ก็จะรู้ว่าเขาใส่อะไรบ้าง อร่อยดีน่ะ แต่ว่า มันเปื่อยเกินน่ะ เวลาทานร้านอื่น ลูกๆบอกลองกลับมาทำกินเองที่บ้าน ลูกก็บอกว่า อร่อย ก็เลยจัดการเปิดร้านเอง แรกๆคือ แจกให้ชาวบ้านกินในเดือนบวช (ปอซอ) เพื่อนบ้านบอกว่า อร่อยๆ สั่งซื้อได้มั้ย เลยเปิดร้านขายหน้าบ้าน เต้นส์เดียว เพื่อนบ้านบอกทำไมไม่ออกมาขายข้างนอก ก็เลยมาขายตรงนี้ 1 เต้นส์ก่อน ก็มีคนยี่งอ คนข้างนอก มาอุดหนุน ต่อมาก็ตั้งโต๊ะเก้าอี้ ค่อยๆขยาย ก็จะมีคนแถว มาเลเซีย โกลก คนกรุงเทพฯ ลงจากเครื่องก็ตรงมาตรงนี้เลย.( ขายดีอย่างนี้รู้สึกยังไงบ้าง) รู้สึกว่า ก็ดีใจ แบบว่ามีแรงผลักดัน บางที่รู้สึกเครียดๆ พอลูกค้าบอกว่า อร่อยน่ะ วันหน้าจะมาอีก ก็ดีใจรู้สึกว่า มีแรงได้ขายต่อ (ตอนนี้ของมันแพง) แพงขึ้น แต่ว่าเราก็ทำราคาเท่าเดิม เหมือนข้าวแกงมัสมั่นเป็ดเทศ มัสมั่นไก่บ้าน ก็แค่ 45 บาท

พิกัดร้านสวนอาหารกลางนา 80 หมู่ 4 บ้านกูแบบาเดาะ ตำบลลุโบ๊ะบายะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิ วาส หรือโทน 085-62811 33 / 092-6251266 เปิด..06.30 – 17.00 น. หยุดทุกวันอังคาร ..เพจ. ร้านสวนอาหารกลางนา ที่นี่..รับทำข้าวกล่อง แกง ต่างๆ ไก่อบโอ่ง หรือเมนูอื่นๆ ทักมาได้ค่ะ.

แวดาโอ๊ะ / อัสมา หะไร รายงานข่าว/ ภาพ