
วันที่ 22 มิถุนายน 2566 ที่หอคำหลวงอุทยานหลวงราชพฤกษ์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าว Doi Inthanon Thailand by UTMB 2023 พร้อมด้วยนายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ Mrs.Sabrina De Nadai DUMONT ผู้แทนจาก UTMB Asia ร่วมแถลงข่าวดังกล่าว
นายสิรภพ กล่าวว่า ประเทศไทยได้สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมจากการจัดในปีที่ผ่านมา ทาง UTMBI (Ultra-Trail du Mont-Blanc International) จึงมอบสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพสนามเมเจอร์ประจำเอเชีย-แปซิฟิกต่อเนื่อง
อีก 2 ปี ด้วยความมุ่งมั่นในการทำงาน และยกระดับการจัดการแข่งขันดังกล่าว ทำให้รายการนี้เป็นที่ยอมรับจากนักวิ่งเทรลทั่วโลกที่เดินทางมาร่วมแข่งขัน ขณะนี้จึงสามารถกล่าวได้อย่างมั่นใจว่า ในวันนี้ไทยคือ “หนึ่งในศูนย์กลางกีฬาวิ่งเทรลของโลก และเป็นหนึ่งเดียวของทวีปเอเชีย-แปซิฟิก” และถือเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของประเทศ ที่จะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในแต่ละปีนับร้อยล้านบาท
ทั้งนี้ในปี 2566 รายการ Doi Inthanon Thailand by UTMB® คาดมีนักกีฬา และ
ผู้ติดตามกว่า 15,000 คน ที่เดินทางมาจาก
ทั่วโลก ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ให้กับประเทศได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
นายทนุเกียรติ กล่าวถึงการจัดการแข่งขัน
ดังกล่าว ที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ คือ การย้ายศูนย์กลางการจัดการแข่งขันจากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มาอยู่ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งสามารถรองรับนักกีฬา และผู้ติดตามได้นับหมื่นคน ปีนี้ได่จัดการแข่งขันระวันที่ 7-10 ธันวาคม รวม 4 วัน และได้เปิดระบบรับสมัครอย่างไม่เป็นทางการล่วงหน้า โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว กว่า 2,200 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก
ด้าน Mrs.Sabrina De Nadai DUMONT ผู้แทน UTMB เอเชีย กล่าวชื่นชมในความสำเร็จ และการมีมาตรฐานการจัดการแข่งขันและการทำงานที่สูง จนเป็นที่ยอมรับจากนักกีฬา และ Committee ของ UTMBI (Ultra-Trail du Mont-Blanc International)
การแข่งขัน Doi Inthanon Thailand By UTMB® 2023 แบ่งประเภทการแข่งขัน
6 ระยะ ได้แก่ TRANS-INT 160 ระยะทาง 179 กิโลเมตร ความสูงสะสม 9,000 เมตร, ELEPHANT 100 ระยะทาง 94 กิโลเมตร ความสูงสะสม 4,970 เมตร, HMONG 50
ระยะทาง48 กิโลเมตร ความสูงสะสม 2,410 เมตร, PALACE 20 ระยะทาง 25 กิโลเมตร ความสูงสะสม 1,220 เมตร, RAJAPRUEK
10 ระยะทาง 10 กิโลเมตร ความสูงสะสม 290 เมตร, WARM UP RUN ระยะทาง 3 กิโลเมตร เส้นทางแข่งขัน ได้มีการปรับเส้นทางวิ่ง ให้ผ่านจุดธรรมชาติที่สวยงาม และมีชื่อเสียงที่สถานที่ท่องเที่ยวหลัก และรองของเชียงใหม่ ปรับให้ผ่านหมู่บ้าน ชุมชน วัด เพื่อให้นักวิ่งได้สัมผัสบรรยากาศที่น่าประทับใจ โดยผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันได้ที่ https://inthanon.utmb.world/
นายทนุเกียรติ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเตืมว่า การ
จัดงานวิ่งเทรลดังกล่าว เป็นครั้งที่ 4 ของการ
วิ่งที่ดอยอินทนนท์ และเป็นการวิ่งครั้งที่ 2
ของเมเจอร์ประจำเอเชีย-แปซิฟิก จนประสบความสำเร็จอย่างสูง วันนี้ที่ดอยอินทนนท์คับแคบไปแล้ว สำหรับการจัดวิ่งดังกล่าว ไม่สามารถรองรับนักวิ่งที่เดินทางมาจากทั่วโลก
จำนวนมาก ที่สำคัญเป็นห่วงเรื่องระบบนิเวศน์ จึงพิจารณาสถานที่ที่เหมาะสม ได้เลือกหอคำหลวง อุทยานหลวงงราชพฤกษ์ เพราะสวยงาม และมั่นใจว่านักวิ่งทั้งชาวไทยและ
ต่างชาติ ประทับใจกับบรรยากาศความสวยงาม ในช่วงธันวาคม มีอากาศเย็นสบาย เชื่อว่าไม่มีบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบไปมากกว่านี้แล้ว
“ได้เลือกเส้นทางไว้หลายระยะ กระจายไป
วิ่งในชุมชนต่างๆ เช่น จัดนักวิ่งไปออกสตาร์ท ที่ อ.จอมทอง ไปตามตำบลอื่นบ้าง ประมาณ 4-5 แห่ง และสุดท้ายทุกคนมาจบที่อุทยาน
หลวงงราชพฤกษ์ อย่างไรก็ตามทีมงานเลือกจุดออกสตาร์ทที่เหมาะสม เพื่อกระจายรายได้ไปยังชุมชน ซึ่งขอเวลาคณะทำงาน ประมาณ
1 เดือน เพื่อสรุปเส้นทางวิ่งอีกครั้ง ซึ่งการ
แข่งขันดังกล่าว ไม่กระทบต่อธรรมชาติ ระบบ
นิเวศ และสิ่งแวดล้อมอย่างใด” นายทนุเกียรติ กล่าว
/////////
Discussion about this post