ตำรวจสนธิกำลังตามรวบได้แล้ว หนุ่มแต่งตัวเป็นพระฉกเงินเจ้าอาวาสวัดที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ บุรีรัมย์ ไปกว่า 1.8 แสนบาท เผยทำตัวทูอินวัน มีใบสุทธิพระติดตัวตั้งครั้งที่เคยบวชแต่งตัวเป็นพระ หาหลอกต้มตุ๋นคนชรา อีกคราบหาเงินลงทุนให้ภรรยาที่โคราชค้าขายผลไม้ตามฤดูกาล
วันที่ 2 ก.ค.66 กรณีพระมงคล จฺตสนฺโล อายุ 82 ปี เจ้าอาวาสวัดสาลวนาราม หรือวัดบ้านบุตาพวง ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ถูกมิจฉาชีพแต่งตัวเป็นพระมาหลอกตีสนิท แล้วฉกเอาเงินไปกว่า 1.8 แสนบาท แล้วขับรถหนีลอยนวล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3, พล.ต.ต รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พ.ต.อ ชูสิทธิ์ หล่อแสง รองผบก.ภจว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ. สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบก.สส.ภ.3, พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล ผกก. สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3, พ.ต.ท.จักรกริช รังพงษ์ สารวัตรใหญ่ สภ. ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมกำลังได้เข้าจับกุมตัว นายภาณุพงศ์ หรือโอ๊ต บุรีวัฒน์ อายุ 53 ปี ที่อยู่ 132 ม.4 ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ตามหมายจับของ ศาลจังหวัดนางรอง ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยเบญ จรงค์ ต.ในเมือง จ.นครราชสีมา โดยตรวจยึดของกลางคือ รถยนต์ที่ใช้ในก่อเหตจำนวน 1 คัน ป้ายทะเบียนรถ ขต 4873 นครราชสีมา ,เงินสด 9 หมื่นบาท , จีวรพระซุกซ่อนอยู่ในลัง
นายภาณุพงศ์ สารภาพด้วยว่า เคยบวชเป็นพระมาก่อน จึงมีใบสุทธิของพระติดตัวตลอด หลังจากสึกมาแล้ว ได้ไปมีภรรยาอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ค้าขายผลไม้ตามฤดูกาลเล็กๆน้อยๆ แต่หมุนเงินไม่ทัน จึงออกตระเวนต้นตุ๋นชาวบ้าน โดยเฉพาะคนชราที่อยู่บ้านตามลำพัง บางครั้งจำเป็นก็แต่งตัวเป็นพระเพราะถนัด แล้วออกหาหลอกพระด้วยกัน อยากจะขอโทษเจ้าอาวาส เพราะไม่มีทางออก
ด้านพ.ต.ท.จักรกริช รังพงษ์ สาร วัตรใหญ่ สภ.ถาวร อ.เฉลิมพระ เกียรติ จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่าผู้ต้อง หาเคยบวชอยู่ที่วัดที่เกิดเหตุ โดยอ้างว่าเงินที่หลอกพระมงคลได้แค่ 1.2 แสน แล้วนำเงินไปลงทุนซื้อผลไม้ให้ภรรยาขายตามตลาดนัด ตอนนี้เหลือเงินแค่ 90,000 บาท
พระมงคล จฺตสนฺโล อายุ 82 ปี เจ้าอาวาสวัดสาลวนาราม กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้และได้เงินคืนมาเป็นบางส่วน เบื้องต้นนำตัวผู้ต้องหาส่ง ร.ต.อ อนุสรณ์ ศรีพรหม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ถาวร อ.เฉลิมพระ เกียรติ จ.บุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไปฐานความผิด “ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธาร ณะโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หรือ “รับของโจร” และ “แต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุสามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ”.
Discussion about this post