
วันที่ 16ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของ กลุ่มผู้แสวงบุญ จำนวน 21 คน จากภาคใต้ ที่ถูกบริษัทประกอบการฮัจย์ในจังหวัดยะลาลอยแพ นำไปทิ้งให้อยู่ห่างไกลจาก มักกะห์ และไม่ดูแล ทั้งเรื่องอาหารการกิน และความเป็นอยู่ ปล่อยให้ผู้แสวงบุญต้องช่วยเหลือตัวเองอยู่ตามมีตามเกิด ไปมัสยิดใกล้ๆที่พักพอที่จะไปได้ โดยในจำนวนนี้ มีผู้สูงอายุ นั่งรถวิลแชร์ร่วมคณะนี้ด้วย สภาพความเป็นอยู่ไม่ได้เป็นไปตามที่บริษัท มีการพูดคุย ตกลงกับแซะ และผู้แสวงบุญ ตั้งแต่ต้น ก่อนจะเดินทาง ทั้งที่ผู้แสวงบุญ และแซะ กลุ่มนี้ ได้เสียค่าใช้จ่าย ไปแล้วกว่า 2.7 แสนบาทต่อคน
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าผู้แสวงบุญกลุ่มนี้ ที่มีความเดือดร้อนมีกว่า 500 คนตึคนอื่นที่มีเงินก็ร่วมกันไปหาที่อยู่กันเอง ขณะเดียวกันมีบางกลุ่มก็ไม่กล้าที่จะออกมาเรียกร้องจึงทำให้ มีผู้ที่ลงชื่อออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมมีแค่ 21 คน เท่านั้นในส่วนของเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลแล้ว พร้อมพยายามหาแนวทางและเจรจากับบริษัท แต่ ล่าสุดทางคณะที่เดือดร้อนยืนยันว่า ปัญหายังไม่มีใครมาช่วยเหลือใดๆมีแต่เจ้าหน้าที่ขอข้อมูลเพิ่มเติมเท่านั้น
โดยหนึ่งในคณะ ผู้แสงบุญฮัจย์ที่เดือดร้อนกล่าวว่า จำนวน 21 ราย ที่ถูกลอยแพ ในประเทศซาอุ นี้เจอปัญหามาตั้งแต่วันแรก จนถึงขณะนี้ ทั้งที่ เราและแซะได้จ่ายเงิน ให้ผู้ประกอบการ คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัดอาบูฮานาน แทรเวิล ครบทั้งหมดแล้ว เราออกเดินทางเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 จากสนามบินหาดใหญ่ มาอยู่ตรงนี้ห่างจากมักกะห์ 1 กิโลกว่า ทำให้ไม่สามารถประกอบพิธีตามสม ควร อีกทั้งไม่ได้ดูแลอาหารการกินให้กับทุกคนเลย รู้สึกไม่เป็นธรรมถูกเอาเปรียบจากบริษัทอาบูฮานาน แทรเวิล จึงอยากขอความช่วยเหลือ ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือโดยด่วน ให้พวกเราได้ไปพักใกล้ มักกะ ตามที่บริษัทเคยแจ้งว่าจะเข้าพักที่โรงแรม sofwa hotel (ระบุใน ID Card) ถึงแม้บริษัทจะระบุว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็ นโรงแรม 3-5 ดาว หรือเทียบเท่า แต่ตึกที่พักจริงน้ันไม่ได้มาตรฐานตามกำหนด ไม่ถูกสุขลักษณะ และทางเดินเข้าโรงแรมเป็นทางขึ้นเนิน รถวิ่งสวนไม่ได้แม้แต่จะใช้รถวีลแชร์ก็ลำบาก และระยะทางถึงมัสยิดอัลฮะรอมประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งหากเดินเท้าต้องเดินทางไปมัสยิด ใช้เวลาไปกลับชั่วโมงกว่า ทำให้ฮุจญาตที่ อายุเยอะ 60 – 84 ปี ต้องละหมาดบริเวณที่พักเท่าน้ัน ไม่สามารถเดินทางไปละหมาดที่มัสยิดได้ตามสมควร
ตอนนี้ทุกคนนอนร้องให้ทุกคืน เพราะสิ่งที่บริษัทได้กระทำทั้งที่ได้ 279,000 บาท และจ่ายล่วงหน้ากันมาก่อนสถานการณ์โควิด รวมระยะเวลา 2-3 ปีด้วย นอกจากนี้ ขอให้ได้ไป มาดีนะ 8 – 10 วัน เพื่อไปละหมาดที่มัสยิดนาบาวี อย่างน้อง 40 วักตู ตามที่ควรจะเป็นจากที่คุยในตอนแรก
ตอนนี้แซะและผู้ดูแล ก็ลำบากพร้อมกับพวกเรา แซะเขาจ่ายเงินให้บริษัทครบ ปัญหาคือ บริษัททิ้งเรา ปล่อยให้เรามาลำบากไม่สามารถไปมักกะห์ได้ตามทีควร ทุกคนไม่ได้เรียกร้องอะไรไปมาก กว่าสิทธิ์ที่สมควรจะได้รับตามที่คุยไว้ ฮุจญาตบางคนไม่ได้รวย เก็บเงินทั้งชีวิต บางคนขายดินเพื่อมาบ้านของพระเจ้า ฮัจย์ได้ทำก็ช่วยเหลือกันแต่รู้สึกไม่เป็นไปตามที่คุยไว้ ตอนนี้พวกเราไม่รู้ชะตากรรมเลยต้องทำอะไรจะไปไหนต่อเมื่อไหร่ ไม่มีใครบอกเราได้เลย บริษัทก็ติดต่อไม่ได้ มีแซะ กับผู้ช่วยแต่ก็ติดต่อบริษัทไม่ได้ เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานก็ได้ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่ได้ร้อง ขอความช่วยเหลือ จาก หน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องและ พรรค การเมือง ต่างๆก็ยังไม่มี อาหารพวกเราอยู่ก็ช่วยกันเองดูแลกัน เองลำบากมาก
ทางด้าน นายอดุล ประเสริฐดำ ผู้ช่วยแซะ กล่าวว่า ผมก็งงเหมือนกัน ที่โปรแกรมตลอดการเดินทาง ไม่ได้เป็นไปตามที่ บริษัทแจ้งไว้ตั้งแต่ต้น วันแรกพวกเรามาก็มาอยู่ตรงนี้ พอมาถึงวันที่ 3 อาหารเราก็หมด ยัง งงในสิ่งที่เกิดขึ้น บางคนได้ย้ายไปใกล้มักกะห์ แต่เราไม่ได้ย้ายก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นี้ก็ใกล้จะได้กลับแล้วก็ยังไม่รู้เลยว่าอะไรยังไงต่อ ไปมัสยิดเรื่องใหญ่ เดินทางชั่วโมงกว่า อายุบางคนก็มาก บางคนขายดินมา อยากได้สิทธิ์ตามที่สมควรตามที่บริษัทได้คุยกับแซะ คนที่เดือดร้อน 280 คน แต่ที่กล้าออกมาร้องเรียนแค่ 21 คน แซะจ่ายเงินให้บริษัทครบหมดแล้ว ตอนนี้ทุกคนยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ พวกเรายังรอการช่วยเหลือจากทุกหน่วยงาน จากรัฐบาล จากทุกคน ขอได้โปรดช่วยเหลือพวกเราทุกคนที่นี้ด้วย
ทางด้านเจ้าหน้าที่จังหวัดยะลา รายหนึ่งกล่าวว่า บริษัทนี้ มีปัญหาก่อนเดินทางแล้ว เขามีทั้งหมด 548 คน ค้างค่าเครื่องบิน 11 ล้านกว่าจะได้บินเครียร์ปัญหาได้วินาทีสุดท้ายก่อนที่จะบินแล้ว ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรแต่ก็รู้สึกตกใจที่ได้มาทราบว่ากลุ่มนี้ถูกลอยแพ ตอนนี้ก็มีความพยายามประสานงานกับหลานส่วนให้มาดูแลช่วยเหลือ
ขณะที่ ชาวไทย ซึ่งอยู่ ที่ในมักกะห์ รายหนึ่งกล่าวว่า กลุ่มนี้ที่มีปัญหา 500 กว่าคน มีแซะ 40 คน พวกเขาถูกบริษัทลอยแพ ปัญหาอยู่ที่บริษัท ไม่ได้เกี่ยวกับแซะๆจ่ายเงินให้บริษัทครบแล้ว ที่สำคัญ เจ้าของบริษัทไม่ได้เดินทางมาเอง ให้ภรรยากับลูก มาดูแลซึ่งเป็นภรรยาคนที่เท่าไหร่ไม่แน่ใจ แต่ทราบข้อมูลแค่นี้ พอเกิดเรื่อง ภรรยาและลูกมาพักที่โรงแรมฮิลตัน ใกล้ๆมักกะห์ ได้แต่ร้องไห้
นอกจากนี้ แหล่งข่าวอีกรายกล่าวว่า บริษัทดังกล่าว เจ้าของเคยมีประวัติลักษณะนี้ มาตลอดเปิดบริษัทมาแล้วโดนแบล็คลิส มาสามครั้งแล้วก็เปิดใหม่เป็นแบบนี้ทุกครั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะดำเนินการแก้ปัญหานี้ ให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก เพราะปัญหานี้ ไม่ได้มีครั้งนี้ครั้งแรก แต่มีมาตลอด เพียงแต่ คนไม่มีใครกล้ามาเรียกร้องขอความเป็นธรรม.
Discussion about this post