วันนี้ (17 กรกฎาคม 2566) เวลา 10.00 น. พระครูสิริสีลวัตร รองเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายชนาส ชัชวาลวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีมอบโฉนดที่ดินวัดป่าเรไร (สำนักสงฆ์ร้าง) บ้านเปือย หมู่ที่ 7 ตำบลเปือย อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมประกอบพิธีทอดบังสกุลเพื่ออุทิศบุญกุศลและระลึกบุญคุณผู้มีพระคุณในการก่อสร้างและบูรณะวัดแห่งนี้ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ร่วมพิธีในครั้งนี้
วัดป่าเรไร ซึ่งเป็นสำนักสงฆ์ร้าง ตั้งอยู่ที่ บ้านเปือย หมู่ที่ 7 ตำบลเปือย อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ 2414 บนที่ดินของวัดที่มีมาแต่เดิม ซึ่งมีเนื้อที่ 14 ไร่ 3 งาน 59 ตารางวา ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นวัดร้าง และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดป่าเรไร เดิมชาวบ้านเปือยหัวดง เรียกว่าวัดป่า ตามภูมิศาสตร์มีป่าไม้ มีพื้นที่สูง ต่ำ มีหินศิลาแลง ใบเสมา บ่งบอกถึงความเป็นมาของอารยธรรมของขอมใน พ.ศ 2400 ได้ก่อตั้ง บ้านเปือย ตำบลบุ่ง อำเภอบุ่ง จังหวัดอุบลราชธานี โดยชาวบ้านได้อพยพ มาจากอำเภอหนองบัวลำภู ต้นตระกูล “ปทุมชาติ” ซึ่งหมายถึงชาติภูมิมาจากเมืองดอกบัว คือเมืองหนองบัวลำภู สมัยพระวอ พระตา (ปัจจุบันคือจังหวัดหนองบัวลำภู) ในปีพ.ศ 2414 ได้ตั้งวัดบ้านเปือย (วัดป่าหรือวัดป่าเรไรในปัจจุบัน) โดยชาวบ้านได้ร่วมกันถางป่า เพื่อการสร้างวัดถวายเป็นพุทธบูชา ในพระพุทธศาสนาจนแล้วเสร็จปี พ.ศ 2420 ในปี พ.ศ 2435 บ้านเปือย ได้เกิดโรคระบาด โรคฝีดาษ ทำให้มีชาวบ้านส่วนหนึ่งได้ย้ายไปทางทิศตะวันตกของบ้านเปือย ชาวบ้านได้ร่วมกันตั้งหลักปักฐานและมีหมู่บ้านเพิ่มอีก โดยสมัยนั้นเรียกว่าบ้านเปือย แล้วได้ก่อตั้งวัดขึ้นใหม่ชื่อวัดโพธิ์ศิลา ซึ่งตั้งตามหลักฐานที่พบคือหลักศิลา และทำให้วัดบ้านเปื่อย (วัดป่าหรือวัดป่าเรไรในปัจจุบัน) ได้ล้างลงไม่มีพระภิกษุจำพรรษา ในปีพ.ศ 2460 ได้มีการตั้งบูรณะวัดบ้านเปือย (วัดป่าหรือวัดป่าเรไรในปัจจุบัน) โดยตั้งชื่อขึ้นใหม่ชื่อว่าวัดป่าเรไร (ตั้งตามชื่อจักจั่นซึ่งมีจำนวนมาก) หลังจากนั้นชาวบ้านเปือย หัวดง ได้ร่วมกันบูรณะปฏิสังขรณ์ ร่วมกันสร้างวัดเพื่อเป็นที่พักพึ่งทางใจและเป็นสถานที่ทำบุญของชาวบ้าน เป็นที่รองรับพระสงฆ์เดินธุดงค์ผ่านมา ซึ่งจะมีพระจำพรรษา ทุกๆพรรษา พรรษาละ 3-5 รูป ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างวัดป่าเรไร ชาวบ้านเปือย หัวดง ร่วมกับญาติโยมทั่วสารทิศ ร่วมกันบูรณะปฏิสังขรณ์มาโดยตลอด ปัจจุบันมีเสนาสนะประกอบด้วย ศาลาการเปรียญจำนวน 1 หลัง กุฏิสงฆ์จำนวน 6 หลัง หอระฆัง จำนวน 1 หลัง หอกลองจำนวน 1 หลัง ห้องสมุดจำนวน 1 หลัง โรงครัวจำนวน 1 หลัง ห้องน้ำห้องสุขา จำนวน 4 หลัง และได้ทำเรื่องยื่นขอโฉนดจากส่นราชการที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการยื่นเรื่องขอจัดตั้งวัดให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว นายทิพกร หวานอ่อน ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ รายงาน
Discussion about this post