
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 4 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีได้รับการร้องทุกข์จากน.ส.พร อายุ 31 ปี (นามสมมุติ) พร้อมญาติ และเพื่อนบ้าน ได้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า เด็กหญิงกวาง อายุ 9 ขวบ (นามสมมุติ) บุตรสาวเป็นนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ถูกนายแหลม อายุ 40 ปีเศษ มีบ้านใกล้เคียงกันทำการข่มขืนลูกสาว ตั้งแต่ยังเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
และได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชัยยงค์ อำพันเสน พนักงานสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี เมื่อวันที่ 28 ก.ค.66 แล้ว แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้ต้องหาพยายามมาเคลียร์คดี ทำให้ตนเองพร้อมสามีกลัวว่าจะไม่มีความปลอดภัย จนต้องหนีไปเช่าบ้านในพื้นที่อื่น และต้องการให้สื่อมวลชลนำเสนอข่าว ภัยสังคมนี้
และกล่าวต่อไปว่า ตนเองและครอบครัวพร้อมลูกที่อาศัยอยู่ในบ้านเช่าพื้นที่ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี มีลูกสาวอายุ 9 ขวบ เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในหมู่บ้าน ที่ทราบข่าวเนื่องจากในช่วงนั้น พอดีญาติสามีหนู เขาเจอลูกสาว ขณะที่เขากำลังนอนอยู่ใต้ถุนพอดี เขาเห็นว่าลูกหนูไปอยู่บ้านเพื่อนของเขา (คนชื่อแหลม) พอดีเด็กเดินกลับมา ญาติของสามีก็เลยถามว่า ซ่อนอะไรไว้ในเสื้อ เปิดดูซิ พอดีเด็กเปิดออกมาก็เห็นกางเกงใน ก็เลยถามว่าถอดออกทำไม ลูกก็บอกว่า ลุงแหลมเป็นคนถอด
ลูกบอกว่า เขาเอาอวัยวะเพศใส่เข้าอวัยวะเพศหนู ทีแรกก็คิดว่าครั้งเดียวก็ให้อภัย แต่ลูกพูดว่าเขาทำหนูตั้งแต่ ป.1 หนูกับสามีก็ไม่ยอมเลยไปแจ้งความที่ สภ.กบินทร์บุรี เรื่องนี้ก็อยากให้เขาคนกระทำเข้าคุก เพราะลูกก็ไปโรงเรียนไม่ได้ กลัวเป็นอันตราย ลูกไม่เคยบ่นไม่กล้าพูด เพราะคนชื่อแหลมบอกว่าอย่าไปบอกใครนะ เด็กคงจะกลัว ที่ต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ เพราะสามีหนู กลัวเขาจะมาทำร้ายลูก
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านผู้ก่อเหตุอยู่ก่อนถึงบ้านผู้เสียหายประมาณ 50 เมตร ส่วนเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์อยู่ใกล้กับบ้านผู้ก่อเหตุ ที่กำลังนอนเล่นใต้ถุนบ้านแล้วเห็นน้องกวางออกมาจากบ้านเกิดเหตุ จนทราบว่าเกิดเหตุขึ้น
ตาของผู้เสียหาย อายุ 64 ปี กล่าวว่า คนก่อเหตุ มันเดินออกมาแล้วมันก็เอาเด็กไป แล้วมันถอดกางเกงในแล้วยัดใส่เสื้อน้องกลับมา เขาข่มขืนหลานมาตั้งแต่อยู่ ป.1 จนปัจจุบันถึง ป.3
เรื่องนี้อยากให้ดำเนินคดีจับไปเลย ถ้าปล่อยไว้ก็อาจจะทำอีก เมื่อวาน (2 ส.ค.) แฟนนายแหลมก็พาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาผมมาไกล่เกลี่ย ผมบอกว่าไม่ยอม ยืนกระต่ายขาเดียว ตำรวจกบินทร์ฯ มาเขาจะมาไกล่เกลี่ยให้โทษหนักกลายเป็นเบา ตาไม่ยอม มาอ้อนวอนมายกมือไหว้ บอกว่า “ผมผิดไปแล้วผมกลัวติดคุก” ผมก็เลยบอกว่า อ้าวเวลาทำทำไมไม่คิดตอนนี้เขาจะให้ 2 แสน ผมบอกว่า ไม่เอา เขาก็ยอมรับว่าผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมหน่อย จะยกโทษให้ได้อย่างไร หลานผมทั้งหมด 4 คน ผมก็ไม่กลัว ถ้าซึ่งๆ หน้า
ส่วนความคืบหน้าในคดีนี้ ร.ต.อ.ชัยยงค์ อัมพันเสน ร้อยเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี หลังจากรับแจ้ง ได้ดำเนินการสอบปากคำพ่อ-แม่เด็กเรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งตัว ด.ญ.เอ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ส่วนตัวเด็กจะนัดสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดกบินทร์บุรี ในวันนี้ (4 ส.ค.) เพื่อออกหมายจับนายแหลมต่อไป ในข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามและกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”
ผู้สื่อข่าวได้ประสานขอทราบข้อมูลดังกล่าวกับ พ.ต.อ.ศิวัชณัฏฐ์ คุ้มทรัพย์ ผกก.สภ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวบิดา มารดา เด็กหญิงผู้เสียหาย ไปสอบสวนร่วมกับทางฝ่ายอัยการ-สหวิชาชีพแล้ว หากผลสอบสวน-การตรวจสอบเป็นจริงจะได้ทำการออกหมายจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ล่าสุดเวลาเมื่อคืนที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้ทางพ่อ-แม่เด็กต่างอยู่ในภาวะเครียด เนื่องจากเกรงถูกทำอันตราย อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดีให้ถึงที่สุดโดยด่วน พบผู้ก่อเหตุยังอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งอยู่บ้านติดกับบ้านของตนเอง
คืบหน้าล่าสุดวันที่ 5 สค.
นายสิงขร (นามสมมุติ) พ่อน้องกวางกล่าวว่าหลังจากเกิดเหตุได้ถามลูก
สาว ลูกสาวบอกว่าผู้ก่อเหตุได้กระทำต่อลูกสาวจริงโดยใช้มือและอวัยวะเพศกับลูกสาวตนจริงพ่อตาสอบถามได้รับคำตอบเดี๋ยวกันว่าถูกผู้ก่อเหตุกระทำจริง ตนเองตัดสินใจพาครอบครัวย้ายหนีออกจากบ้านมาเช่าห้องอยู่ต่างหมู่บ้านต่างตำบลเกรงว่า ตนเองพร้อมภรรยาและลูกสาวอาจจะไม่ปลอดภัย ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาเพื่อเจรจาไม่ให้ไปแจ้งความดำเนินคดี อยากให้ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ภรรยาและตนเองเครียดและหวาดกลัวมากผู้ก่อเหตุ ยังไม่ได้ถูกจับดำเนินคดีแต่อย่างใด
ตนกับภรรยาต้องไปทำงาน ให้น้องสาวดูแลแทนน้องสาวและญาติที่เป็นผู้หญิง ทุกคนต่างหวาดกลัวผู้ก่อเหตุรู้ที่อยู่ อาจมีการจะทำร้ายหรือลักพาตัวลูกสาวด้วยความแค้นที่ยอมรับผิด ยอมจ่ายเงินหลักแสนบาทเพื่อแลกกับไม่ให้ถูกดำเนินคดี แต่ตนเองและภรรยาไม่ยอมความ..
Discussion about this post