จ.นครพนม ประกาศเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย แล้ว 11 อำเภอ พร้อมบูรณาการภาคีเครือข่ายลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครพนมในวันนี้ (6 สิงหาคม 2566 ) ยังคงมีเมฆมาก ฝนฟ้าคะนอง และฝนตกในพื้นที่ประมาณร้อยละ 70 โดยระดับน้ำโขงเมื่อเวลา 06.00 น.วัดได้ 9.20 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 29 เซนติ เมตร และด้วยเหตุจากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยในครั้งนี้ ทำให้ในพื้นที่จังหวัดนครพนมเกิดปริมาณน้ำสะสม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ถนนชำรุด รวมถึงพื้นที่การเกษตรเสียหาย จึงได้มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณ ภัย อุทกภัยในพื้นที่ไปเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2566 จำนวน 11 อำเภอ ประกอบไปด้วย อำเภอเรณูนคร อำเภอท่าอุเทน อำเภอนาทม อำเภอเมืองนครพนม อำเภอวังยาง อำเภอบ้านแพง อำเภอธาตุพนม อำเภอนาหว้า อำเภอปลาปาก อำเภอโพนสวรรค์ และอำเภอนาแก

โดยเมื่อวาน ( 5 สิงหาคม 2566 ) ได้ร่วมกับนางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนคร พนม นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการ นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ ปลัดจังหวัดนครพนม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม เกษตรจังหวัดนครพนม สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนคร พนม และนายอำเภอธาตุพนม นำหน่วยงานภาคีเครือข่ายลงพื้นที่อำเภอธาตุพนม เพื่อร่วมกันมอบเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จำนวน 808 ราย แบ่งเป็นในตำบลนาหนาด 23 ราย ตำบลฝั่งแดง 90 ราย และตำบลน้ำก่ำ 695 ราย พร้อมกันนี้ได้ยังได้นำหน่วยบริการของเกษตรอำเภอธาตุพนม ออกให้บริการให้คำปรึกษา คำแนะนำ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในนาข้าว รวมถึงชี้แจงแนวทางและระเบียบของทางราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบกรณีพื้นที่ทำ การเพาะปลูกมีพืชตายหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟู หรือเยียวยาให้กลับสู่สภาพเดิมได้อีก ที่จะให้ช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เสียหายจริงไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตราไร่ละ 1,340 บาท ส่วนใครที่เป็นลูกหนี้ ธ.ก.ส. จะได้เพิ่มเติมจากโครงการประกันภัยข้าวในอัตราไร่ละ 1,340 บาท แต่จะไม่เกิน 30 ไร่ ส่วนผู้ที่ประกอบอาชีพประมง และปศุสัตว์ จะมีการเยียวยาเช่นเดียว กัน แต่ก็ต้องมีเอกสาร หลักฐาน ยืนยันที่ชัดเจน ต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมประมงและกรมปศุสัตว์ เป็นการสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจให้ประชาชนได้เข้าถึงการช่วยเหลือจากทางภาครัฐ.